ต้นคิดยังเดินทางมาไม่ถึง เพราะรถติดแถมยังขึ้นรถเมล์ผิดสาย ถูกวนแอ่วอยู่ในเมืองเจียงใหม่หลายรอบ
พรรคพวกที่รออยู่ที่ทำงานเลยต้องรับภาระหาสถานที่สำหรับร้องคาราโอเกะไปพลางๆ
ผู้ไม่เชี่ยวชาญด้านสถานที่เที่ยวกลางคืน ก็เลยนึกไม่ออกว่าหลังจากร้านเดิมๆ ที่เราเคยไป จะมีที่ไหนอีก
ได้ยินแต่เสียงลือเล่าอ้างกันมา ไม่เคยไปสัมผัสบรรยากาศจริงๆ ซักที ยากที่จะตัดสินใจแทนคนหมู่มาก
กว่าจะลงตัวได้สำหรับที่ร้องเพลง ก็สรุปเอาที่แรกที่มีคนเสนอมานั่นแหละ (แล้วจะคิดให้ปวดหมองทำไม)
กว่าจะฝ่าฝันรถติดของเมืองเจียงใหม่ เพื่อทะลุไปใจกลางของย่านกาดสวนแก้วได้ ทำเอาลุ้นระทึกกันมาก
น่าเห็นใจคนกทม. มากๆ ที่รถติดมาตลอดชีวิต แต่สำหรับคนเชียงใหม่แค่เจอรถติดปีละไม่กี่วันยังบ่นกันฮึ่ม!!!
ดีที่พวกเรามาถึงร้านที่ 12 ห้วยแก้วกันก่อนที่ห้องจะเต็ม คนจะล้น เลยได้ครอบครองห้องสมใจถึงตีสอง
สี่ทุ่มกว่าที่ผู้ใหญ่กำลังมันได้ที่ เด็กชายที่เพิ่งข้ามมาจากเซนทรัลฝั่งตรงข้ามเพราะห้างจะปิดก็เกิดงอแง
อยากจะมานอนรอพ่อในรถ ซึ่งจริงๆ แม่เองก็เสียดายเพลง(โบราณ) ที่เลือกไว้หลายเพลงของศิลปินโปรด
เจ๊ใหม่ เจ๊แอม ป้าเบิร์ด ช่างวัดอายุกันได้จริงๆ เล่นเอาเด็กๆ ร้องไม่เป็นกันเลย ถามหาแต่กอล์ฟ-ไมค์
แม่และเด็กเลยต้องมานั่งรอพ่อในรถ แต่ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ ที่มาจอดรถตรงทางขึ้นไปชั้น 2
ซึ่งเป็นสถานบันเทิง Discovery ที่นักท่องเที่ยวกลางคืนล้านแปด จะต้องขึ้นบันใดตรงนี้เพื่อไปอัดกันในร้าน
คนที่มาดึกๆ เกินเที่ยงคืน ต้องกลับลงมาและออกไปหาร้านใหม่ เพราะไม่มีแม้ที่จะยืน (ได้ยินเค้าบ่นกัน)
สำหรับฉันที่นั่งเบื่ออยู่ในรถ ยกมือถือขึ้นมาออนไลน์หาคนแชท แต่ก็นะจะเที่ยงคืนแล้วใครจะมาคุยด้วย
คนที่คุยด้วยก็ได้เวลานอนของเขาแล้ว กินชาเขียวหมดไปสองขวด ช๊อกโกแลตและขนมแจกจากงานเลี้ยง
กินซะเกลี้ยงรถ ก็ยังไม่ถึงเวลาที่ร้านคาราโอเกะจะปิด ส่วนเด็กชายนอนหลับไปได้หลายตื่นแล้ว
ฟังเพลงจนหมดเพลงฮิตที่ mem ไว้ในมือถือ จะเปิดเพลงในรถฟังก็กลัวลูกตื่น คิดมุขใหม่ได้ในใจ
วิจารณ์การแต่งกายของสาวๆ ที่มาเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้ ให้ไฟเขียวไฟแดงแบบเจ๊จ๋าหนังสือเมาท์ดารา
เทรนตอนนี้คือห่มบน สั้นล่าง สรุปให้เข้าใจง่ายๆ คือ ใส่เสื้อกันหนาวมา มีผ้าพันคอ แต่ใส่ขาสั้น
บางคนใส่สายเดี่ยว เกาะอกมาก็มีบ้าง แต่พันผ้าพันคอ และใส่ประโปรงสั้น สาวๆ บางคนมากับมอไซค์
เลยต้องเอากระเป๋าใบใหญ่มาใส่เสื้อกันหนาวด้วย (มันลำบากขนาดนี้ทำไมนอนอยู่บ้านเนี่ยคุณน้องงงง)
คาดว่าสถานบันเทิงแห่งนี้จะไม่ใช่แหล่งรวมคนหน้าตาดี และเป็นศูนย์รวมของสาวสวยไฮโซ
เพราะแต่ละคนแสนจะธรรมดามาก น่าจะมีที่อื่นๆ ให้ไปสวย เริ่ด เชิด หยิ่ง ปิ๊งผู้ชายได้อีกหลายที่
ซึ่งวัยป้าอย่างเราคงไม่รู้จักแล้ว และที่สำคัญสำหรับค่ำคืนอันแสนน่าเบื่อนี้ ไม่มีผู้ชายหน้าตาดีผ่านเข้ามา
ในสายตาแทบจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ของป้าอย่างฉันเลย มีเพียง a man กลุ่มหนึ่งที่หน้าตาดีกันทั้งกลุ่ม
แต่หาใช่ผู้ชายจริงๆ ไม่ เพราะพวกหล่อนคงเกลียดชะนีกันเข้าไส้ เลยหันมาบริโภคกันเองแบบไม่เสียดุล
ผ่านไปใกล้ตีสองร้านจะปิดทุกคนทยอยกันกลับลงมา แต่ฉันยังนั่งอยู่ที่เดิมหลังจากเข้าห้องน้ำไป 2 รอบ
หนุ่มสาวบางคู่ประคองกันลงมา ส่วนใหญ่สาวจะเมา บางคนสวยแต่เมาแล้วไม่สวย หมดราคาเสื้อผ้าหน้าผม
ที่อุตส่าห์พยายามแต่งมาเมื่อตอนหัวค่ำ มีหลายคู่ที่เลิกแล้วยังมายืนทะเลาะกันต่ออีก (เหนื่อยกับชีวิตจริงๆ)
ตีสองสองนาที คุณตำรวจเดินมาหาฉันที่รถ หลังจากมารอตรวจตราให้ผับและร้านเหล้าต่างๆ ปิดให้ตรงเวลา
ถามฉันว่าเอาลูกมาเที่ยวด้วยเหรอ ฉันไม่ได้ตอบอะไร เขาเลยเอาไฟฉายมาส่องหน้าและส่องไปที่เด็กนอน
ฉันเลยลงจากรถไปหาเขา แต่เสื้อที่ฉันใส่ยังไม่ได้เปลี่ยนมี logo ที่ทำงาน เขาเลยอ่าว!!! แล้วขอโทษ
เขาเห็นฉันไม่ได้ใส่สายเดี่ยว นุ่งสั้น คุณตำรวจเลยเข้าใจว่าคงไม่ได้มาเที่ยว แต่มารอดูคนประมาณนั้น!!!