ส่วนฉันก็ลางานไปซ่อมสุขภาพใจเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เพิ่งผ่านมาสองวัน
รู้สึกคิดถึงหัวหน้าขึ้นมาตะหงิดๆ ด้วยภาวะการรักษาการณ์แทน
ทำให้มีเรื่องที่ต้องคิดและตัดสินใจแทนหัวหน้าอยู่หลายเรื่อง
เมื่อก่อนหัวหน้าก็ให้โอกาสในการคิดและตัดสินใจเสมอๆ
แต่ตอนนั้นสิ่งที่ฉันคิดและตัดสินใจ จะมีหัวหน้าคอยพิจารณากันเหนียวอีกรอบ
แต่เมื่ออาทิตย์แล้วตัวเองก็ดันลา เรียกได้ว่าไม่ได้พูดจากันก่อนลาพัก
ครั้งนี้ฉันเลยหวั่นๆ ในใจพิกล แถมหัวหน้าก็ลาพักยาวกว่าทุกครั้งด้วย
ดีที่บารมีของท่านหัวหน้าได้สั่งสมไว้มากหน่อย คนที่มาสานต่องานอย่างฉัน
เลยไม่ต้องลำบากลำบนอะไรมาก งานที่คั่งค้างของสัปดาห์ที่แล้ว
หัวหน้าเขียนแปะกระดาษแผ่นเล็กๆ ไว้ที่หน้าชิ้นงานทุกงาน อธิบายทุกรายละเอียด
ทำเอาหัวหน้ามือใหม่อย่างฉัน ทึ่งในความละเอียดรอบคอบและมุมมองความคิด
และที่สำคัญหัวหน้าเดาใจฉันถูก มองฉันทะลุปรุโปร่งเลย ว่าฉันจะคิดจะทำอะไรต่อ
เสนอทางเลือกให้เสร็จสรรพ แม้ไม่ได้เจรจากันต่อหน้า นึกแล้วก็ถือว่าฝีมือฉัน
ยังห่างชั้นอยู่เอามากๆ สมแล้วที่ไม่ควรจะไปปกครองใครหรือตัดสินใจอะไรเอง
เพราะความห่ามและใจร้อนของฉัน อาจจะทำลายตัวเองและองค์กรได้
ปกติเวลาอยู่ที่ทำงาน โต๊ะทำงานฉันก็ติดกับหัวหน้า มีอะไรก็บอกเล่าและปรึกษาได้ทันที
มีเพื่อนบางคนทักว่า โต๊ะอยู่ใกล้หัวหน้าขนาดนี้ ไม่กลัวเหรอ ทำงานได้ไง ไม่เกร็งหรือไง
ก็หัวหน้าฉันไม่ได้ยักษ์นะ ถึงจะได้กลัว ฉันว่าหัวหน้าซะอีก ต้องกลัวความร้ายของฉัน
แต่เราก็อยู่กันด้วยมิตรไมตรีเสมอมา ด้วยความสบายใจเหมือนครอบครัวเดียวกัน
ไม่รู้ว่าวันหน้าถ้าฉันต้องเป็นหัวหน้าจริงๆ ฉันจะทำได้เหมือนที่หัวหน้าฉันเป็นหรือเปล่า
หวังว่าวันเวลา คงจะหล่อหลอมฉันได้บ้างไม่มากก็น้อย หวังว่าฉันจะยังได้อยู่ตรงนี้ไปนานๆ
ฉันไม่ได้หวังว่าฉันจะต้องได้เป็นหัวหน้า ไม่ว่าที่แห่งนี้หรือที่แห่งไหน สิ่งที่ฉันอยากได้คือ
แค่ทุกวันที่ตื่นมาแล้วรู้สึกว่าอยากมาเจอคนที่ทำงาน ฉันเริ่มคิดถึงหัวหน้าเพราะว่าไม่ได้เมาท์กันเลย อิอิ