ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทุรนทุรายที่จะต้องไปดูหนังเรื่องใด ไม่ว่าหนังไทยหนังเทศ
เพราะในช่วงชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้องจนลูกอายุจะห้าขวบอีกไม่กี่วัน
ยังไม่เคยพาตัวกลมๆ ของตัวเองเข้าไปดูหนังในโรงหนังอีกเลย ไม่รู้เพราะอะไร
สำหรับหนัง "รักแห่งสยาม" เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ถูกถามอยู่ทุกวันว่าดูหรือยัง
แต่ก็ยังไม่ได้ใจอ่อน เสียเงินไปดู ไล่มาตั้งแต่เห็นเพื่อนโจ๊กโปรโมทไว้ในสเปซ
แต่เห็นหน้าตาพระเอกนางเอกแล้ว หน้าตาใสกิ๊กเป็นลูกฉันได้เลยนี่นา ว่าไหม?
น้องๆ นักศึกษามาถามกันอยู่เกือบทุกวัน พี่ไปดูรักแห่งสยามหรือยังเป็นไงบ้าง
พอบอกว่า ยัง ก็ย้ำกันเลย ต้องไปดูนะ หนูรู้สึกว่า พี่จะเป็นแม่ของพระเอกได้
อ้าวววว ว่าชั้นเป็นป้านกสินจัยเลยหรือเนี่ย เด็กพวกนี้นะ (เพิ่งเกทหลังจากอ่านเรื่องย่อ)
เจ๊อ้อย ซึ่งไม่ได้เจอกันแสนนาน พอเจอหน้าก็บอกว่า เธอต้องหนังเรื่องนี้ให้ได้นะ
มันหนังเกย์ไม่ใช่เหรอพี่ จะให้ดูทำไมอะ มันน่าดูเหรอ เจ๊อ้อยเกือบเท้าสะเอวด่าฉัน
เอ๊ะ!! นี่หล่อนสับสนอะไรหรือเปล่า นั่นมันหนังเจ๊พจน์อานนท์นะ ที่ดูดปากกันจ๊วบๆ หนะ
อ้าวเหรอเจ๊ ก็อิฉันได้ยินเค้าว่ามาอย่างนี้นี่ ว่ามันเป็นหนังของพวก Y ไม่ใช่เหรอ
ก็เออสิ หล่อนนั่นแหละยิ่งต้องไปดู เพราะลูกชายหล่อนหนะ แววมันมาตั้งแต่ไม่ห้าขวบ
ชั้นว่าหล่อนไปดูไว้บ้างก็ดีนะ เพราะว่าจะได้เข้าใจหัวอกลูกผู้ชายของหล่อนมากขึ้น
วันนี้เพิ่งประจักษ์ด้วยตาตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่า แม้แต่คุณปลื้ม (ซึ่งฉันยืมชื่อหัวข้อมา)
ยังเขียนเรื่อง Rak Haeng Siam ใน Bangkok Post ฉบับวันพฤหัสนี้
ทั้งๆ ที่ทุกที ไม่เคยเปลี่ยนแนวจากการเมือง แต่วันนี้ผิดคาด และฉันก็ดันเผลออ่านจนจบ
ที่พึ่งพิงสุดท้ายของฉันในการลดทอนความกดดันว่าต้องไปดูหนังเรื่องนี้หรือไม่
ก็คือเข้าไปค้นในพันทิป ตามคาดเลย รักแห่งสยาม ขึ้นมาเป็นสถิติคำค้นสูงสุดในรอบสัปดาห์
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่จะได้รับการกล่าวถึงในพื้นที่บอร์ดสาธารณะอื่นๆ ด้วย
แต่ละแต่…ดูละครแล้วย้อนดูตัว คำนี้ก็ยังคงใช้ได้อยู่ แม้ฉันจะยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้
แต่คนอื่นๆ ก็ spoil หนังเรื่องนี้ จนฉันเองก็ชักจะอินไปกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างนั้นแล้ว
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เพิ่งพูดกับน้ำค้างว่า เมื่อก่อนทำไม รร.เราไม่มีคนหน้าตาแบบมาริโอ้นะ
แว้บแรกที่ฉันสนใจหนังเรื่องนี้ ก็เพราะมีหนุ่มน้อยหน้าตาอย่างมาริโอ้ หรือ โต้งพระเอกของเรื่อง
หรือน้องพิช หนุ่มน้อยอีกคน ซึ่งฉันก็โม้ไปสามบ้านแปดตลาดเหมือนกันว่าโตมาลูกชายฉัน
จะหล่อแบบน้องสองคนนั่นแหละ แต่น้องชายฉันก็ค้านว่า แค่แม่พิมพ์มันก็ผิดกันแว้วววเจ๊
และย้อนกลับมามองคนรอบตัวฉัน เพื่อนๆ ของฉัน กว่าพวกเขาจะก้าวผ่านวัยและวัน
แห่งความสับสนในหัวใจมาได้ ก็น่าเห็นใจยิ่งนัก ไม่ต้องเอ่ยไม่ต้องบอกว่ามีใครบ้าง
แต่ถ้าเพื่อนๆ เหล่านั้นได้เข้ามาอ่าน อยากจะบอกว่า ฉันรับรู้และเข้าใจความรู้สึกพวกนายเสมอ
คิดดูนะ สมัยเราอายุสิบห้า (ฉันแอบไปอ่านเรื่องย่อของหนังมาหนะ เลยรู้ว่าเขาอายุ 15 กัน)
พ่อแม่ก็รับไม่ได้ใช่ไหม ว่าเราจะผิดเพศ เบี่ยงเบน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เพื่อนๆ เรา
หลายๆ คนต้องรอจนเรียนจบ ทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง ไม่ต้องขอพ่อแม่
ถึงจะมีโอกาส open ตัวเองออกมาได้บ้าง บางคนก็ได้มาก บางคนก็ได้น้อย
เพราะยังมีแม่ๆ ที่เฝ้าหวังอยู่ที่บ้าน ว่าลูกชายของตัวเองจะกลับไปแต่งงานมีหลานให้อุ้ม
ฉันก็เพิ่งเข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมหลายๆ คน อยากให้ฉันได้ไปดูหนังเรื่องนี้
เพราะแม่ผู้บ้าเห่ออย่างฉัน ก็มีลูกชายที่เล่นตุ๊กตาหมีพูห์ เล่นเกมออนไลน์ที่สอนทำขนมเค้ก
เป็นลูกชายที่เกาะติดแม่ไปทุกหนทุกแห่ง และแม่ผู้แสนเวอร์ก็ป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้
ว่ายินดีจะควักเงินให้ลูกชายไปทำดั้ง ทำนม หากลูกชายอยากจะกลายเป็นแต๋ว!!!
แต่ลึกๆ แล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ฉันควรจะมีลูกชายสำรองไว้อีกคนจะดีกว่า
เพราะคุณสามีเป็นลูกชายคนเดียว ถ้าลูกชายอิฉันเกิดไม่อยากมีเมียมีลูกขึ้นมา
เดี่ยวจะหาผู้สืบสกุลไม่ได้อีก สรุปแล้วที่อ่านมา อาจจะไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหนังเท่าไหร่
เพราะว่าคนเขียนยังไม่ได้ดูหนะ แต่ถึงดูแล้ว ก็คงไม่มาเล่าซ้ำอีก และสำหรับเพื่อนชาย
เพื่อน Y เพื่อนหญิงและไม่หญิงที่เป็นเพื่อนๆ ของฉัน ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไร
ฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้ ไม่ว่าจะมีความรักกับคนเพศไหนก็ขอให้มีรักที่งดงามตลอดไป
[ Love Actually is All Around ]