Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for พฤษภาคม, 2007

          ฉันคงจะต้องไปเปิดพจนานุกรมเพื่อหาความหมาย ของคำว่า "มูลค่า" กับ "คุณค่า"
        หากว่าที่บ้านมีพจนานุกรม เพียงแต่วันนี้ไม่ได้อยู่ที่ทำงาน 
        เลยไม่ได้ค้นหาว่า มูลค่า กับ คุณค่า มันแปลความหมายได้แตกต่างกันแค่ไหน
        ฉันคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เรื่องการตีค่าของที่เธอมีเป็นมูลค่า
        และเธอกลับละเลยที่จะตีความกับคำว่า คุณค่าของมัน 
        เลยมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง ว่าฉันเองนั้น มักจะตีความตามมูลค่า หรือคุณค่ากันแน่
        แล้วคำว่า มูลค่า กับ คุณค่า มันต่างกันแค่ไหน และยังไง

        ฉันมี เพื่อนชายคนนึง เป็นฟรีแลนท์รับงานโฆษณา
        ซึ่งดูเหมือนเขาจะรู้ซึ้งถึงเรื่องคุณค่าและมูลค่าเป็นอย่างดี
        เวลาฉันอยากได้อะไรทีดูไฮเทค และมีมูลค่า ฉันจะปรึกษาเขา
        ทั้งๆ ที่ฉันไปแอบซื้อมันมาแล้วหละ แต่ลองปรึกษาดูก็ไม่เสียหลาย
        เพื่อถ่ายเทความรู้สึกผิดออกไปจากใจบ้าง เมื่อนึกถึงแค่มูลค่าของมัน

        เพื่อนชายคนนั้นถามฉันว่า ซื้อมาทำไมนะ มันมีประโยชน์ยังไง 
        แล้วแกใช้มันคุ้มไหม มันมีคุณค่ากับแกแค่ไหน และอีกสารพัดสารพัน
        แล้วจะสรรหาคุณค่าของมันมาอธิบายให้เราฟัง พร้อมเปรียบเทียบ
        กับอีกสิ่งหนึ่ง หรือยี่ห้อหนึ่ง ที่มีคุณค่าใกล้เคียงกัน แต่มูลค่าต่างกัน
        ฉันก็ได้แต่รับคำมาแบบ เออๆ เพราะชั้นก็ยังงงกับตัวเองว่าฉันซื้อของ
        เพราะเห็นแก่มูลค่า หรือคุณค่าของมันกันแน่ (ส่วนใหญ่คงเป็นแบบแรก)

        สำหรับใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ แล้วเกิดไม่เข้าใจว่าฉันกำลังจะสื่ออะไร
        ก็โปรดรับทราบไว้เถอะว่า โปรดทำหน้างงกันต่อไป เพราะฉันเขียนเอง
        ก็ยังงงเอง ว่าตกลงแล้ว ตัวฉันเอง เวลาอยากได้อยากมีอะไรนั้น
        ฉันได้ยึดหลักตามมูลค่า หรือคุณค่ากันแน่ นี่ยังไม่รวมถึงการตีค่าทางจิตใจ
        สมมุติว่า เรื่องความรักหรือความเป็นเพื่อน ถูกตีความตามมูลค่า
        แต่ถูกละเลยในคุณค่า คุณคิดว่า คนที่ตีความและคนถูกตีความ
        — เขากำลังคิดและรู้สึกกันยังไง — 

        ยกตัวอย่างเช่น ฉันมีเพื่อนคนนึง เมื่อก่อนเขาทำงานเงินเดือนสูงๆ 
        มีหน้ามีตาในสังคม เป็นที่ยอมรับของเพื่อนฝูง แล้วฉันมองเขาว่า
        เขาเป็นคนที่มีมูลค่า แต่เมื่อวันนึง เขาตกงาน วันๆ ก็ว่างไม่รู้จะทำไร
        ก็โทรมาคุย แวะเวียนมาหาเราเป็นบางวัน มาชวนกินข้าวปรับทุกข์
        แล้วถ้าฉันคิดว่า มูลค่าเขาลดลง เขาจะรู้สึกยังไงบ้างนะ 

        ในทางกลับกัน ถ้าคิดถึงคุณค่าในตัวเขา ในวันที่เขาเป็นเพื่อนเรามา
        คอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจกันมาตลอด ถึงแม้จะไม่ได้พึ่งพากันเรื่องเงินทอง
        แต่แค่กำลังใจ ความห่วงใยและหวังดีที่เพื่อนมีให้ตลอดมา
        ก็ถือเป็นคุณค่าที่คนๆ หนึ่ง มีให้กับเพื่อนคนนึงได้อย่างมากมาย

        ถ้าฉันยังเห็นคุณค่าของเขา เห็นคุณค่าของความเป็นเพื่อน 
        เขาก็คงรู้สึกดีกว่าถ้าเป็นคนมีคุณค่า มากกว่า เป็นคนมีมูลค่า

        อีกกรณีหนึ่ง สมมติว่า ฉันเป็นผู้หญิงคนนึง มีคนมาจีบอยู่สองสามคน
        คนแรกเป็นคนดี หน้าที่การงานปกติ เงินเดือนก็เพียงพอสำหรับชีวิตตน
        กับอีกคนนึง เป็นคนดีน้อยกว่าคนแรก หน้าที่การงานดี การเงินดี เงินเดือนสูง
        ถ้าเราเลือกที่มูลค่า เราคงเลือกที่จะคบกับคนที่สอง แต่ถ้าเราเลือกที่คุณค่า
        เราก็อาจจะเลือกที่คนแรก แต่ทั้งนี้แล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและคนที่จะเลือก
        ว่าเขาเลือกรักคนที่ "มูลค่า" หรือ "คุณค่า" มากกว่ากัน เพราะของแบบนี้
        มันสอนกันไม่ได้จริงๆ ว่า คนๆ นึง จะวัดคนอื่นด้วย "คุณค่า" หรือ "มูลค่า"

Read Full Post »

          วันนี้ได้มีโอกาสดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้แบบเต็มๆ เพราะเป็นวันหยุด
          ทุกทีจะได้ดูแค่หกโมงสิบห้าไปจนถึงเจ็ดโมงกว่านิดๆ
          แล้วก็ได้ดูตอนคุณเอกราชอ่านข่าวกีฬา เมื่อถึงที่ทำงานอีกครั้ง

          หลักๆ แล้วดูเรื่องเล่าเช้านี้ เพราะจะดูว่า วันนี้คุณปลื้มแต่งตัวยังไง ใส่สูทสีอะไร
          เสื้อเชิ๊ตข้างในสีอะไร เพราะถ้าวันไหนคุณปลื้มใส่เสื้อเชิ๊ตข้างในสีอะไร
          เดี๋ยวน้องชายของอิฉัน ซึ่งมาจากอีกบ้านเพื่อมาขึ้นรถไปทำงานด้วยกัน

          คุณชายเธอก็จะใส่เสื้อสีเหมือนกับคุณปลื้มเป๊ะเลย เรียกได้ว่า…
          ลอกข้อสอบกันตั้งแต่ยังไม่เคารพธงชาติด้วยซ้ำ นี่ถ้าเชียงใหม่หนาวกว่านี้อีกหน่อย
          ไม่รู้ว่าคุณน้องชายสุดหล่อจะล่อใส่สูทไปทำงานแบบคุณปลื้มด้วยไหมนะ

          สำหรับอิฉันไม่สามารถลอกข้อสอบน้องกุ๊กสุดสวยได้ เพราะระดับมวลกายคนละชั้นกัน
          คุณกุ๊กมีแบบไขมันชั้นเดียว แบนราบไปทั้งตัว ทำให้สาวไขมันสามชั้นแบบอิฉัน
          ไม่สามารถแต่งกายเลียนแบบคุณกุ๊กไปทำงานได้ ถ้าเป็นสมัยคุณอรปรียาก็ว่าไปอย่าง

          แต่ตอนสมัยนั้น ถ้าแต่งกายเลียนแบบคุณอรปรียา จะไปจ๊ะเอ๋กับพี่ต่ายพี่ที่ทำงาน
          เพราะคุณเธอก็ลอกข้อสอบคุณอรปรียามาเกือบทุกวันเหมือนกัน
          เช้านี้ลูกชายถามว่า แม่ครับ คุณสี่คนเค้ารายงานข่าวอะไรกันบ้างในรายการ

          เลยบอกลูกไปว่า ลุงเอกราชอ่านข่าวกีฬา พี่ปลื้มรายงานข่าวเศรษฐกิจและต่างประเทศ
          (และข่าวดารากับไฮโซ อันนี้ขอแหนบแนมเป็นการส่วนตัวเล็กน้อย)
          ส่วนพี่กุ๊กอ่านข่าวทั่วไป ซึ่งแชทบอกว่า ข่าวชาวบ้านใช่ไหม เพราะลุงสรยุทธบอก

          คงใช่แหละ ข่าวทั่วไปเรียกข่าวชาวบ้าน ส่วนลุงสรยุทธน้องแชทบอกว่า "อ่านข่าวร้าย"
          คืออะไรที่ไม่ดี อะไรที่ร้ายๆ ให้ลุงแกอ่านเหอะ ไม่มีใครใส่อารมณ์ได้ดีเท่าลุงแกอีกแล้ว


Read Full Post »

สถิติ…สติ(แตก)

         
                   ภาพประกอบจาก "ลิงใจดี" ณ ไทยมุง

        กำหนดการอบรมวิชาสถิติ "การวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปรด้วย SPSS/FW"
        ตามกำหนดการต้องอบรมสามวันเต็มๆ แบบอัดแน่นด้วยเนื้อหาสาระ
        แต่แค่ช่วงเช้าแรก ผู้เข้าอบรมก็ตามอาจารย์แทบไม่ทัน ตั้งแต่การปูเรื่องสถิติพื้นฐาน
        ตามด้วยสถิติขั้นสูง เรียกได้ว่า แค่กระพริบตา อาจจะตามไม่ทันเป็นแน่

        ผ่านมาได้เกือบสองวันกว่าๆ แล้ว หลังจากที่การอบรมที่เข้มข้น
        ระดับครู อาจารย์ สถาบันต่าง ๆ ที่มาเข้าร่วมอบรม ยังบ่นกันเป็นทิวแถว
        คนที่จะซึ้งกับสถิติที่อบรมครั้งนี้ ก็คงเป็นพวกหมอ วิศวฯ และคุณพยาบาล
        ส่วนคุณบรรณารักษ์อย่างเรา ก็เอาแค่หางอึ่งก็พอแล้ว (แต่อาจจะไม่คุ้มกับค่าลงทะเบียน)

        กลับมาอบรมฐานข้อมูลต่อในสายๆ ของวันที่ 3 แบบนี้สิถึงเป็นตัวของตัวเองหน่อย
        พี่นก พี่ที่คณะวิทย์ แซวตอนเจอกันในวันที่สองว่า นึกว่าจะโดดซะแล้ว
        และก็ทนคำยุของพี่นกไม่ไหว โดดมาอบรมฐานข้อมูลดีกว่า รู้เรื่องมากกว่า
        บางทีการพยายามเรียนสถิติที่ยากเกินไป ก็ทำให้สติแตกได้เช่นกัน

Read Full Post »

เพื่อนชาย

 
          สำหรับ บี อ๋อม หรือเพื่อนสาวคนอื่นๆ  พวกหล่อนถูกเราเมาท์มาเยอะแล้ว
        วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดี เมาท์เพื่อนผู้ชายบ้าง ที่จริงก็คงไม่เชิงเมาท์
        เพราะสำหรับโจ๊ก ซึ่งคนอื่นๆ อาจจะงุนงงว่าหล่อนหนะเพศไหน
        แต่สำหรับฉันก็ไม่เคยถามมันซักที ว่าตกลงมันอยู่สปีชี่ไหน 
        รู้แต่โจ๊กมีคติประจำใจของโจ๊กคือ "ไม่บริโภคพวกเดียวกัน"

        ช่วงนี้ไปกินข้าวกับโจ๊กบ่อยๆ เพราะโจ๊กมาเข้าเฝ้าพระอาจารย์
        เตรียมตัวสอบและส่งวิทยานิพนธ์ ทำให้มีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้น
        แถมได้ซ้อนรถเครื่องผู้ชายด้วย หุหุ พี่ต่ายพี่ที่ทำงานถามโจ๊ก
        ว่าเอารถอะไรมา โจ๊กบอกว่า เอารถเครื่องมาครับ
        พี่ต่ายแทบกริ๊ดใส่ บอกว่า พูดว่ารถเครื่องได้บ้านนอกมาก ก็เด็กเจียงฮายนี่

        ความชอบของฉันกับโจ๊กเหมือนกันคือเรื่องปากสุนัข
        เป็นพวกปากกับใจตรงกัน ทำเอาคนที่มาปรึกษาหารือเรื่องใดๆ
        ได้รับคำปรึกษาไปเต็มๆ แบบไม่มียั้ง ทั้งคำพูดและการประชดประชัน
        และสิ่งที่ชอบเหมือนกันอีกอย่างคือการกินน้ำเงี้ยว แต่ฉันเอง
        จะกินเยอะกว่าโจ๊กอีก ทั้งๆ ที่โจ๊กออกจะอ้วนกว่า หุหุ 

        เวลาไปกินอะไรที่ไหน โจ๊กจะให้ฉันออกเงินน้อยกว่าทุกครั้ง
        เพราะโจ๊กมันบอกว่า มันเงินเดือนมากกว่า (แต่ไม่ได้พูดเพราะข่มเพื่อน)
        และไม่มีภาระใดๆ แต่สำหรับแม่ลูกหนึ่งเงินเดือนราชการแบบฉัน
        เพื่อนมันคงเห็นใจ ให้เก็บเงินไว้ซื้อนมให้ลูก เอาไว้จ่ายค่าเทอมลูก
        และฉันก็จะได้รับเกียรติให้กินได้มากกว่าโจ๊กอยู่ดี อิอิ

        ฉันเคยถามโจ๊กว่า ถ้าชั้นจน แกจะคบชั้นไหมวะ
        โจ๊กตอบโดยไม่ต้องคิด ว่าอีหอย!! แล้วแกเคยรวยเหรอวะ
        อือมนะ มันก็จริง ที่จริงเหตุผลที่ฉันถามโจ๊ก เพราะไม่รู้จะไปถามใครต่างหาก
        ถ้ามีคนๆ นึง ที่คบคนอื่น ด้วยคำว่า รวย จน มี หรือไม่มี ฉันอยากรู้ว่า
        เขากำลังคิดหรือกำลังรู้สึกอะไรอยู่ (ความรู้สึกของคนที่วัดคนอื่นด้วยฐานะทางการเงิน)

        หน้าที่การงานที่ใหญ่โต หรูหรา มีหน้าตาในสังคม หรือว่าเงินเดือนเยอะๆ
        ถ้าเราถูกเลือกคบโดยใช้มาตรฐานเหล่านั้น ความรู้สึกมันจะเป็นยังไงนะ
        อยากรู้เหมือนกัน แต่ว่าฉันก็โชคดีแล้วหละ ที่ไม่มีเพื่อนที่คิดอะไรทำนองนั้น
        แถมเพื่อนชายที่ฉันถาม หล่อนดันลาออกจากงานเงินเดือนหลายหมื่น
        ชะตาเดียวกับเพียงใจก็เพิ่งลาออกงานเหมือนกัน แต่สำหรับพวกเขาแล้ว…

        ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะใดในสังคม ฉันก็ยังเห็นเขาเป็นเพื่อนฉันอยู่เสมอ 

Read Full Post »

เหลาดินสอ

         
         

        ภาระกิจหลักของแชทภายในบ้านที่ต้องรับผิดชอบคือ "การเหลาดินสอ"
        ยุคนี้สมัยนี้จะหากบเหลาดินสอมาเหลาดินสอก็ค่อนข้างยาก เพราะคุณภาพไม่ค่อยดี
        พอซื้อที่เหลาดินสอแบบหมุน ๆ เกลียวข้างในก็ไม่ค่อยจะ work สำหรับบางยี่ห้อ
        ชั่วอายุสี่ขวบกว่าของแชท เลยใช้ที่เหลาดินสอเปลืองกว่าสมัยพ่อและแม่

        สมัยพ่อแม่ยังเด็กมีแค่กบเหลาดินสออันเล็กๆ แถมยังต้องเก็บให้ดี
        เดี๋ยวเพื่อนยืมแล้วไม่คืน มีตั้งแต่อันละห้าสิบสตางค์ถึงห้าบาท
        ในสมัยนั้นห้าบาทนี่ถือว่าได้ของหรูแล้ว แต่เด็กสมัยปีสองพันอัพ
        กบเหลาดินสออันละบาทคงไม่รู้จักกันแล้วหละ

        เวลาพ่อหรือแม่ไปสัมมนาที่ไหนก็ต้องเก็บดินสอบนโต๊ะสัมมนาและในห้องพักโรงแรม
        เอามาฝากน้องแชท แชทจะถามว่า ที่ดินสออ่านว่าอะไร พอแม่อ่านให้ฟัง
        แชทก็ทำปากขมุบขมิบพูดตาม ยังกะท่องไว้แล้วจะจำได้ว่าของโรงแรมไหน
        บางทีญาติๆ ที่เค้ารู้ว่าแชทชอบก็จะเอามาฝากเป็นกำๆ

        ที่จริงน่าจะทำเป็นของสะสมอย่างหนึ่งของแชทนอกจากสะสมหมีพูห์และผองเพื่อน
        แต่ถ้าแชทโตมา อาจจะเบื่อการเหลาดินสอแล้วหันไปเล่นเกมต่อสู้ก็เป็นได้
        แต่สำหรับการได้รับมอบหมายให้เป็น "พนักงานเหลาดินสอประจำบ้าน"
        ถือเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของแชทเลย

 

Read Full Post »

Way Back into Love in Music and Lyrics

         
           

          อาจจะดูเชยไปซักหน่อยที่จะมาพูดถึงหนังเรื่องนี้…ตอนนี้
        แต่สำหรับแม่บ้านผู้บีชี่ส์อย่างฉัน ถือว่าการดูหนังเรื่อง Music & lyrics ตอนนี้
        ก็ดูทันสมัยมากๆ แล้ว เพราะขนาดเรื่อง Full house ที่เค้าฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง
        อิฉันก็ยังไม่ได้ดูกับเค้าเลยจนถึงทุกวันนี้ แถมยังมีเรื่อง Love Actually อีกที่ยังไม่ได้ดู
        มันยังเป็นแผ่นดีวีดีที่พ่อ Hugh Grant สุดหล่อ (แต่หน้าย่นตามวัย 46) นำแสดงอยู่เช่นเคย
        ไม่นับเรื่อง Bridget Jones’ s Diary ของเจ๊ Helen Fielding ที่อ่านหนังสือทั้งสองภาค
        จบไปหลายรอบ ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดูหนัง (เพราะสามีไม่โหลดมาให้ซักที)

        วันนี้เอาเนื้อเพลงมาฝากก่อน อยากให้เจ๊เรียลฯ มาแปลเป็นไทยให้
        แต่เกรงว่าจะรบกวนเจ๊เกินไป อีกไม่นาน เราอาจจะได้อุดหนุนเจ๊ 
        ในเวอร์ชั่นของการเป็นนักเขียน ซึ่งเธอภาวนาของให้เป็นสำนักพิมพ์ workpoint
        ถ้าเจ๊เรียลทำได้จริงๆ แบบที่พี่จิกชวน อิฉันคนนึงละ 
        ที่จะเป็นปลื้มกับความสำเร็จของเธอ และขอเป็นหนึ่งในหน้าม้า 
        ที่คอยอุดหนุนสินค้าเธอ เฉกเช่นที่เคยเป็นมา…
        นอกเรื่องไปมากโขแล้ว ฝากเนื้อเพลงไว้นะจ๊ะ 
        ถ้ามีเวลา คงมีคนใจดีมาแปลให้เราได้อ่านบ้าง

I’ve been living with a shadow overhead
I’ve been sleeping with a cloud above my bed
I’ve been lonely for so long
Trapped in the past, I just can’t seem to move on
ฉันอยู่กับความไม่แน่นอนด้วยเงาที่อยู่เหนือศรีษะ
แม้จะหลับตาก็เหมือนนอนอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆเหนือเตียง
ฉันอยู่อย่างเดียวดายมานานแสนนาน
ติดแน่นกับบ่วงกับดักแห่งอดีต จนไม่สามรถก้าวเดินต่อไปได้

I’ve been hiding all my hopes and dreams away
Just in case I ever need them again someday
I’ve been setting aside time
To clear a little space in the corners of my mind
ทำได้เพียงหลบซ่อนความหวังกับความฝันเพียงแค่นั้น…
ฉันต้องการใครสักคนในบางวัน
ฉันอยากหยุดเวลาไว้สักพัก
เพื่อเพิ่มที่ว่างเพียงน้อยนิดให้กับสี่ห้องหัวใจเพื่อใครบางคน

All I wanna do is find a way back into love
I can’t make it through without a way back into love
Oh oh oh
สิ่งที่ฉันต้องการคือการกลับมารักใครสักคนอีกครั้ง
แต่ฉันไม่สามารถทำให้มันเป็นจริงได้เลย… ทำไมกัน…

I’ve been watching but the stars refuse to shine
I’ve been searching but I just don’t see the signs
I know that it’s out there
There’s gotta be something for my soul somewhere

I’ve been looking for someone to shed some light
Not somebody just to get me through the night
I could use some direction
And I open to your suggestions

All I wanna do is find a way back into love
I can’t make it through without a way back into love
And if I open my heart again
I guess I’m hoping you’ll be there for me in the end

There are moments when I don’t know if it’s real
Or if anybody feels the way I feel
I need inspiration
Not just another negotiation

All I wanna do is find a way back into love
I can’t make it through without a way back into love
And if I open my heart to you
I’m hoping you’ll show me what to do
And if you help me to start again
You know that I’ll be there for you in the end

ไปฟังเพลงนี้ได้เลยที่
http://www.nangdee.com/song/clip_song/musicandlyrics/ml10.wma

Read Full Post »

แก้แพ้


         

          หลังจากที่กินยาแก้แพ้เข้าไป เพราะตัวเองเริ่มเป็นหวัด มีน้ำมูก
          พยายามประคองตัวเอง เพื่อจะดูบอล FA cup ตอนสามทุ่ม
          แต่พอลูกชายชวนไปนอนหลับ ก็เลยไม่ฝืนสังขารขึ้นไปนอนเป็นเพื่อนลูก
          แต่คิดว่าตัวเองคงหลับไปก่อนลูกด้วยซ้ำ เพราะแชทยังขึ้นไปเล่นกับตุ๊กตาอยู่

          ตื่นมาเข้าห้องน้ำอีกที บอล FA Cup ที่กำลังมีไรอัน กิ๊ก ใส่เสื้อสีแดงๆ เดินไปรับรางวัล
          ในใจภาวนาว่า ขอให้ขึ้นไปรับถ้วยแชมห์เหอะ แต่เอ๊ะ!!! ขึ้นไปทีมแรกก็ต้องได้รองแชมป์ดิ
          ว่าแล้วเชียว…ขึ้นไปรับเหรียญจากพระหัตถ์เจ้าชาย ทำหน้าจ๋อยๆ กันทุกคน
          อิฉันก็เลยต้องนั่งหน้าจ๋อยตรงบันใดบ้านแอบดูทีวีที่สามีเปิดทิ้งไว้

          คิดถึงน้องชายขึ้นมาฉับพลัน ณ เวลานั้น เขาอยู่ที่ร้านเหล้าร้านไหนเนี่ย
          เศร้าออกจากร้านเหล้า คงไม่แมนเท่าไหร่แน่ๆ เลย เฮียหางฯ อีกหละ เฮียดูอยู่ไหม
          ลูงเล็กอีก นอนไม่หลับแหงๆ แล้วก็พ่อของอ๋อมด้วย สงสัยลุงโวยน่าดู
          เศร้าจริงๆ เลยแฮะ ปีนี้ได้แค่แชม์เดียวแทนที่จะเป็นดับเบิ้ลแชมป์

          — สงสัยต้องกินยาแก้แพ้เยอะๆ หน่อย คราวต่อไปจะได้ไม่แพ้ —

Read Full Post »

The Family Man

ไปเจอรูปพ่อหนุ่มคนนี้ในเว็บ pantip ขวัญใจในวัยละอ่อนถึงวัยสาว และถึงปัจจุบันนี้
ที่มา :
http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5405663/S5405663.html

พี่กิ๊กส์จูงมือลูกสาวมาร่วมฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก

สาวน้อยมาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของพ่อ

งานนี้ลูกชายตัวน้อยก็มายินดีด้วย…น่าชื่นใจจริงๆ


การมีครอบครัวคอยให้กำลังใจในทุกเรื่องราว เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งนัก
ทำให้มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันและก้าวไปถึงฝั่งฝันที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ

Read Full Post »

3 สถานะ 1 หัวใจ

 
           ไปเจอมาใน blog เก่า เพิ่งคุยบีเพื่อนรักไปเมื่อหลายวันก่อน
         ถึงเหตุการณ์วันที่นางสาวบีอกหัก และอ๋อมมาอยู่เป็นเพื่อนบี
         และมีชโรมาเมาเป็นเพื่อน เลยเอามาโพสไว้ให้สาวๆ อ่าน ไว้รำลึกความหลัง

         หญิงเอ : โสดสนิท ไม่เคยคิดตกลงปลงใจกับใครมาก่อน
         หญิงบี : โสดหมาดๆ เพิ่งเลิกกับแฟนสดๆร้อนๆ
         หญิงซี : สละโสดได้ไม่นาน แอบหนีสามีมาอยู่กับเพื่อน
         
         หญิงเอ : เคยอยากจัดฟันแต่เกลียดหมอฟันที่สุดในโลก
         หญิงบี : จัดฟันได้เป็นปี มีฟันเป็นสีฟ้า
         หญิงซี : จัดฟันเพราะอยากผอม แต่ยังไม่ผอมสมใจ ใส่ฟันสีฟ้าเหมือนกัน

         หญิงเอ : อ่านหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ตำราทำอาหาร
         หญิงบี : อ่านหนังสือร้อยแปดวิธีรักษาใจภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง
         หญิงซี : อ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเพ้อฝัน แอบปันใจให้พระเอกตาโตกว่าคนจริงๆ

         หญิงเอ : หิวขนมจนตาลายแต่ขี้เกียจไปซื้อ
         หญิงบี : กินอะไรก็ไม่ลง
         หญิงซี : หิวข้าวจนตาลายกินควายได้ทั้งตัว

         หญิงเอ : อยากดูข่าวและสารดคี
         หญิงบี : ไม่อยากดูทีวี ฟังเพลงอกหักรักคุดกันดีกว่า
         หญิงซี : ฉันจะดูละครทีวีที่มีพระเอกหล่อ หาไม่ได้ในชีวิตจริงของตัวเอง

         หญิงเอ : พูดถึงชายหนุ่มในอนาคต ว่าหน้าตาจะประมาณไหน
         หญิงบี : พูดถึงชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นอดีตไป ว่าทำไมถึงได้บัดซบเช่นนี้
         หญิงซี : พูดถึงชายหนุ่มคนปัจจุบัน ว่าฉันคงไม่มีโอกาสเปลี่ยนแล้ว

         หญิงเอ : ดื่มน้ำเปล่า กับแกล้มอร่อยดี
         หญิงบี : เรดฯ น้ำโซดา แกล้มหัวใจด้านชาของตัวเอง
         หญิงซี : วัอดก้าน้ำสไปรท์ หัวใจหวานฉ่ำ พูดพร่ำ ด่าแฟนเพื่อน

         หญิงเอ : ตีสองแล้วนอนได้ไหม หัวใจฉันสะลืมสะลือ
         หญิงบี : ตีอะไรก็นอนไม่ได้ หัวใจฉันรุงรัง
         หญิงซี : ตีเท่าไหร่แล้วเธอ พรุ่งนี้ตื่นไปทำงานไม่ทัน

         ห้อง 102 ตีสอง กลิ่นกับข้าว กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง
         ชนแก้วก่อนนอน ไว้อาลัยผู้ชายเฮงชวย
         อธิษฐานไว้ในใจ ขอให้หญิงบี เจอแต่สิ่งดี
         3 สถานะ ไม่ว่าเวลาไหน แต่เรายังมีหัวใจเดียวกัน

           Sat Feb 9, 2002
          
http://nongchaom.mydeardiary.com/entry.html?de_key=428526

 

Read Full Post »

 
          Thank you from Khun Pleum

        Dear Everyone,

                  This is Khun Pleum. I”ve seen this fan club website 
        and I appreciate very much that someone has set this up for me. 
        It looks great and hope that you all continue to watch the programs that I do.  
        Aside from Ch. 3, I also have daily economic analysis on Ch. 5 at 11:30am, 
        an interview show on Ch. 9 at 3pm on Thursday and Friday. 
        I do less Newsline now because I need time to sleep.  
        Also listen to radio on FM88 at 7:30am, 12:30pm, 
        & 7:30pm where I report on stocks in English-language.

        Again, thank you very much krub.

        Sincerely,

        M.L. Nattakorn Devakula
        e-mail : mlnattakorn@hotmail.com 

        IP: 124.120.223.234

Read Full Post »

Older Posts »