Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for ตุลาคม, 2006


                             
         
อยู่ๆ ก็ได้มีโอกาสกลับไปบ้านเกิดโดยไม่คาดคิด ที่จริงก็รู้ล่วงหน้ามาหลายวันเหมือนกัน
          ว่าจะต้องไปงานแต่งงานพี่หนึ่งกับน้องน้อยหน่า และที่จริงก็เพิ่งได้กลับบ้านไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
          และก็ได้สัญญาไปกับพ่อแม่เหมือนกันว่าจะกลับไปตอนปลายเดือนตุลา (ตอนมีแข่งจักรยานที่ดอยตุง)

          พ่อหมูอ้วนถามว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างที่บ้านเธอ ตอนแรกก็ไม่คิดจะสังเกตอะไร
          ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป แต่พอมีคนทัก ก็เลยแอบสังเกตซักเล็กน้อย ตอนในงานแต่งงาน
          ก็มีแต่คนคุ้นตา เพราะว่า มีหลายคนที่เคยเป็นคนคุ้นหน้ากันมาก่อน

          ตอนเดินที่ big c ก็เหมือนเจอเพื่อนโรงเรียนหลายคน บางคนก็ยิ้มให้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าทักทายใคร
          เพราะกลัวหน้าแตกเหมือนกันที่จะต้องเกิดการทักผิดคน ที่บ้านก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
          ตาพล เอาหมามาเลี้ยงไว้ในบ้าน ไม่น่าเชื่อ จากการที่หมาเป็นแค่หมาเฝ้าบ้าน อยู่นอกบ้าน

          กินอาหารแค่เศษอาหารวันละมื้อ แต่ด้วยความว่างจัดของตาพล ก็เลยเอาหมามาเลี้ยง
          และดูแลเหมือนลูก น่าแปลกใจยิ่งนักสำหรับคนระเบียบจัดแบบตาพล
          คิดๆ แล้วก็อยากให้เชียงราย –
เชียงใหม่ ใกล้กันเหมือนตอนไปลำพูน

          จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาก คิดถึงเมื่อไหร่ ก็ไปหาได้สบายๆ ดูๆ ไปก็น่าสงสาร
          ช่วงก่อน ยายอ่อน ก็เลี้ยงแมว แทนลูกแทนหลาน ตอนนี้ตาพลก็มาเลี้ยงหมา
          แทนลูกแทนหลานอีกคนแล้ว สิ่งที่ไม่ค่อยเปลี่ยนสำหรับที่บ้านคือ น้ำที่เย็นจัด

          ไม่ว่าฤดูกาลไหน เวลาอาบน้ำ แบบไม่มีน้ำอุ่น ปวดใจดีพิลึก และเสียงวัวในตอนเช้า
          เราตื่นมาไม่ทันดูวัวเดินผ่านหน้าบ้านหรอก แต่เราก็ได้ยินเสียงมัน ถ้าตัวไหนใจดีหน่อยก็อึไว้ให้เรา
          ดูต่างหน้า ทำเอาคนแถวนั้นบ่นกันเป็นทิวแถว เพราะต้องขับมอเตอร์ไซต์หลบแอ้โบ้ กันจ้าละหวั่น

          สายหน่อยก็ยังมีสายหมอกลอยล่องรอเราให้ตื่นเต้นเล่นๆ หลังจากที่เชียงใหม่
          เราจะเห็นหมอกอยู่ไกลๆ แต่ที่บ้านตาพล สายหมอกลอยมากระทบหน้า
          ยืนนานๆ ทำให้หัวเปียกและเป็นหวัดได้ง่ายๆ เหมือนกัน แชทเองก็ซื้อผ้าพันคอสีฟ้าเตรียมไว้แล้ว

          สำหรับหน้าหนาวที่จะถึงนี้ เพราะเห่อจากการดูการ์ตูนพูห์มากไป ที่ทุกคนมีผ้าพันคอพัน
          ตะลุยหิมะกันทุกคน ตอนสายที่ไปทำบุญที่วัด เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลหายายไหว
          และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ต้องอธิฐานว่าขอให้ยายไหวมาเกิดกับแม่น้องนะ

          เพราะเมื่อชาติที่แล้วยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณกันเลย มาหนนี้ได้ทำบุญแบบแปลกๆ 
          คือ ทำบุญถวายที่ดินให้วัด คนละตารางวา ดูๆ ไปก็แปลกดี แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้แปลกอะไร 
          แค่เอาเงินใส่ซอง แล้วพระท่านก็อนุโมทนาสาธุให้ และเห็นว่าจะออกใบอนุโมทนาบัตรให้ด้วย

          ที่จริงก็ไม่ได้หวังว่าท่านจะทำอะไรให้แต่กลับไปบ้านเกิดทั้งที ไม่รู้จะทำบุญยังไง
          คนเวลาน้อยอย่างเราก็ได้แค่ทำบุญด้วยการใส่ซองก็ยังดี
ก่อนจะกลับบ้าน
          ญาติๆ เอาของมาฝากกันอีกแล้ว ทั้งๆ ที่เราเอง ไม่ค่อยได้เอาอะไรไปฝากใครเท่าไหร่เลย

          แต่แค่เห็นรถหมูตุ้ยจอดอยู่หน้าบ้าน ทุกคนที่ผ่านไปผ่านมา ก็จะแวะทักทายแล้ว
          ถามว่ามาเมื่อไหร่ กลับตอนไหน ที่ต้องถามถึงตอนกลับ เพราะญาติๆ จะได้เอาของมาฝากกัน
          ของฝากของคนที่นี่ ถึงจะไม่ใช่ของที่มีค่ามากมายมหาศาล แต่ก็มากไปด้วยน้ำใจ

          มะละกอลูกโตๆ มะนาวจากสวน มีน้ำปูด้วย (เพราะคนเชียงใหม่ ชอบน้ำปูของเชียงรายมาก)
          ทวดเอาตะกร้าที่สานเองมาฝากหลายใบ แค่เห็นก็จำได้แล้ว เพราะว่ามันอยู่กับเรามาตั้งแต่เด็กๆ
          ของแบบนี้ ถึงแม้ว่า ถ้ามาถึงเชียงใหม่แล้วมันจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร แต่แค่มันมาอยู่บ้านเรา
          ก็รู้สึกอุ่นใจเหมือนมีญาติผู้ใหญ่มาอยู่ใกล้ๆ แล้ว 
 
 

Read Full Post »

My name is Kim Sam Soon

           

          จริงๆ แล้ว ไม่ได้คิดจะเขียนถึงหนังเกาหลีเรื่องนี้ในแบบบรรยายเนื้อหาและบรรยากาศ
          เพราะคงไม่ใช่อะไรที่ถนัดนัก ที่จะดูหนังแล้วเอามาเล่าให้คนอื่นฟังเป็นวรรคเป็นเวร
          ทั้งๆ ที่ตัวเองดูหนังเกาหลีมาก็เยอะ แต่ก็ไม่เคยคิดจะเขียนถึง เพราะใครๆ
          เค้าคงเขียนกันไปหมดแล้ว :
P

          และจุดประสงค์ของการดูหนังเกาหลีของฉันคือ การดูพระเอกหล่อ
          หรือไม่ก็เอาใจช่วยพระรองที่หล่อกว่าพระเอก อิอิ
แต่ดูเรื่อง
Kim Sam Soon แล้ว
          อดที่จะนึกถึงตัวเอง และนึกถึงเพื่อนไม่ได้
Sam Soon เหมือนฉัน
          ตรงที่หล่อนอ้วนและจริงใจ
Sam Soon เหมือนเพียงใจ ตรงที่เธอเป็นคนมั่นใจ
          ปากกับใจตรงกัน
และเป็นคนมีความสามารถ Sam Soon เหมือนอ๋อม
          ตรงที่เค้าทำขนมอร่อย และมีความตั้งใจเรื่องการเรียนทำขนม
Sam Soon เหมือนบี
          ตรงที่เธอมีความอดทน และขยัน (ดูๆ ไปฉันก็คิดเข้าข้างตัวเองและเพื่อนๆ ของฉันซะเหลือเกิน)


          เห็นแล้วเลยคิดถึงเพื่อนๆ หลายๆ คน
Sam Soon เป็นตัวอย่างของผู้หญิงที่ไม่ Fake
          ซึ่งปัจจุบัน ผู้หญิงมักจะถูกตัดสินจากคนรอบข้างว่า ผู้หญิงเราพยายามสร้างคุณค่า
          ให้ตัวเองกันมากขึ้น
ซึ่งหากทำตัวไม่ถูกไม่ควรแล้ว จะโดนมองว่ากลายเป็นนางสาวตอแหล
          ไปในที่สุด
หลายคนพยายามทำตัวให้น่ารัก เพื่อที่จะมีคนรัก หลายคนทำตัวให้ดูดี
          เพื่อให้คนรอบข้างได้ชื่นชม
แต่บางครั้ง มันก็หมิ่นแหม่เอาการอยู่เหมือนกัน
          กับการทำตัวให้ดูดี ดูน่ารัก โดยใช้มาตรฐานจากคนอื่นเป็นตัววัด
เพราะสุดท้าย
          มันก็จะทำให้ผู้หญิงเรา ไม่เป็นตัวของตัวเอง และถูกหาว่า
Fake ไปในที่สุด

          แต่สำหรับ
Sam Soon และผู้หญิงหลาย ๆ คนที่ฉันรู้จักแล้ว พวกเธอไม่เคยคิดทำตัวให้ดูน่ารัก
          ดูดี เพื่อให้คนได้ชื่นชม
แต่ Sam Soon และเธอเหล่านั้น พยายามจะดีกับทุกคน
          อย่างจริงใจมากกว่า ซึ่งนั่นแหละ มันทำให้เธอ
ถูกแวดล้อมไปด้วยคนที่รักเธอ
          และคนที่เธอรัก (แม้สาวๆ ที่ฉันพูดถึงจะโสด!! ก็ตาม) แต่ฉันก็ไม่เห็นว่า พวกเธอเดือดร้อนอะไร

          ที่ไม่มีแฟน!!! ทั้งที่ตัวเอง ก็อายุอานามไล่ๆ กับ
Sam Soon กันแล้ว มีแต่ฉันซะอีก
          ที่เดือดร้อน เพราะอายุเกือบ30 แต่แบกภาระไว้
ทั้งลูกและสามี พอดูเรื่องนี้เข้า
          เลยไม่สามารถคิดเข้าข้างตัวเองได้ร้อยเปอร์เซ็น ว่าฉันจะเป็น
Sam Soon แบบนั้นได้

          คิดๆ ดูแล้ว ผู้หญิงเรานี่ก็แปลกดี พวกเราชอบคิดว่า ต้องเป็นอย่างโน้น ต้องเป็นอย่างนี้
          เพื่อให้มีคนมารัก เพื่อให้มีคนมาสนใจ
แต่จริงๆ เพียงแค่เธอมีดีในแบบที่ตัวเองมี
          และไม่ไปอวดดีใส่ใคร จนทำให้คนอื่นเค้าประมวลผลเป็นลบ
เพียงเท่านี้ ผู้หญิงอ้วน
          หรือผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ แต่ว่า จริงใจไม่
Fake ก็คงมีคนที่รักอยู่รอบๆ ตัวเธออยู่แล้ว

Read Full Post »

ชายในฝัน

           จริงๆ แล้ว ฉันคงฝันถึงใครต่อใคร ที่นับนิ้วแล้วก็คงไม่หวาดไม่ไหว
          แต่ด้วยลักษณะนิสัยบางอย่าง จะเรียกว่า ย้ำคิดย้ำทำก็น่าจะเป็นได้
          ฉันมักจะฝันถึงใครซ้ำๆ จนคนที่ฉันฝันถึง เขาขอบโมเมเอาว่า เขาเป็นชายในฝันของฉัน
          ช่วงก่อนที่ทำงานให้ลุงเล็กติดๆ กันหลายวัน หลายสัปดาห์ แต่ละคืนที่หลับตาลง
          กลัวที่สุดคือการฝันถึงลุงเล็ก ใช่ว่าลุงเล็กจะไม่หล่อพอที่จะฝันถึง แต่ฉันก็ไม่อยาก
          ได้รับการประณาม จากตัวฉันและลุงเองว่าฝันถึงสามีคนอื่น (คุณน้าวรางฯ มาอ่านเจอ 
          อย่าเผลองอน!!!) แต่ยิ่งพยายามไม่คิด ก็ยิ่งจะฝันถึง ตื่นเช้ามา ต้องรีบเล่าให้ลุงเล็กฟัง
          ว่าฝันถึงลุงอีกแล้ว ลุงได้แต่หัวเราะเยาะในความย้ำคิดย้ำทำของฉันทุกครั้ง

           ผ่านมาหลายสัปดาห์ หลังจากช่วยงานลุงเล็กเสร็จ ฉันก็ไม่ฝันถึงลุงอีกเลย
          ทั้งๆ ที่ชุดผ้าปูที่นอน ผ้านวมที่ลุงเล็กซื้อให้แชทไว้ดูต่างหน้า และฉันก็ห่มมันนอนทุกวันๆ
          แต่ก็ยังไม่ทำให้ฉันฝันถึงลุงได้อีกเลย 555 ตอนนี้ฉันมีชายในฝันคนใหม่แล้วลุง
          น่าแปลกมาก ไม่รู้จะหาทฤษฎีไหนมาอ้างอิงดี (ถ้ามีทั่นอดีตรองวิจัยฯช่วยบอกด้วย)
          ฉันฝันถึงอาจารย์ธีระพงษ์ ที่บอกว่า น่าแปลกก็คือ คนที่ฝันถึงเนี่ย เค้ามีเมียเป็นตัวเป็นตน
          กันหมดแล้วนะ!! แล้วฉันเนี่ย ก็มีสามีเป็นตัวเป็นตนอ้วนๆ อยู่ 1 คน แล้วทำไม
          ถึงต้องไปฝันถึงสามีคนอื่นด้วยหนะ 555 แค่อาจารย์เมล์ตอบกลับมาเวลาฉันส่งข้อมูลให้
          ก็เอาไปฝันถึงแล้ว ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ก่อนนอนฉันคิดถึงหนุ่มเกาหลี หน้าหล่อๆ ตั้งหลายคน
          และจริงๆ แล้ว อ.ดร.ประสาทพร ก็ส่งเมล์ตอบกลับฉันเวลาฉันส่งข้อมูลให้ แต่ไม่ยักกะฝันถึง
          (ที่จริงฝันถึงอาจารย์ประสาทพร อาจจะฉลาดขึ้นก็ได้เน๊อะ) จะเป็นบาปกรรมมั้ยนี่ 
          ที่ฉันฝันถึงสามีคนอื่น 555 แล้วจะมีสาวไหน มาฝันถึงสามีฉันมั้ยนะ??? อ่านะ
          ยังไงมันก็เป็นแค่ฝัน ที่จริงแล้ว อ.ธีระพงษ์ เป็นชายในสเปคของพี่ที่ทำงานฉัน
          แล้วก็เคยเป็นชายในฝันของน้องสาวพี่แอ้ดที่ฉันรู้จักด้วย อะนะ ถ้าเลือกว่าจะฝันถึงใคร
          ได้ในฝันก็ดีนะสิ แต่ทำไมฉันต้องฝันถึงแต่ผู้ชายนี่!!! แถมยังมีเมียแล้วซะอีก 555

Read Full Post »


          แชทเหมือนพ่อ

          — เพราะแชทหน้าตาคล้ายพ่อมาก (สำเนาถูกต้อง)

          — แชทหัวโต

          — แชทผมหยักโศก

          — แชทความจำดี

          — แชท(น่าจะ)เรียนเก่ง

          แชทเหมือนแม่

          — เพราะแชทตาเหมือนแม่

          — แชทเถียงเก่ง

          — แชทเป็นโรคเลือดจาง (ต่อจากแม่)

          — แชทเป็นภูมิแพ้ (แบบแม่)

          — และล่าสุด หมอบอกว่า แชทเป็นหอบ หืด (เหมือนแม่อีกแล้ว)

          สิ่งที่แชทได้ไปจากแม่ รู้สึกว่า มันจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย คุยกับตาพลแล้ว
          รู้ซึ้งเลยว่าตอนเด็กๆ ตากับยายเลี้ยงแม่มาลำบากแค่ไหน ทั้งโรคประจำตัวแม่
          และนิสัยประจำใจที่เอาแต่ใจ(แต่ขี้โรค) ตอนนี้แม่ต้องดูแลแชทให้ดี
          แบบที่ตากับยายดูแลแม่ และก็ต้องขอบคุณตายายด้วย ที่เลี้ยงแม่มาเป็นอย่างดี
          ไม่ว่าแชทจะถอดแบบแม่มาแบบไหน แม่ก็ต้องดูแลแชทให้ดีที่สุด เท่าที่แม่คนนี้จะทำได้

Read Full Post »