วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็นวันสงกรานต์ (อันนี้ใครไม่รู้คงเชยชมัด)
จังหวัดเชียงใหม่จะมีการจัดขบวนแห่สงกรานต์ และสรงน้ำพระ ซึ่งเป็นประเพณี
ที่สืบทอดกันมายาวนานและขบวนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเป็นขบวนที่ยาวมาก
เพราะประกอบไปด้วยตัวแทนจากคณะ สถาบัน สำนัก
ที่สังกัดในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้งหมด เลยต้องจัดขบวนไว้ปิดท้ายทุกปี
ปีนี้ครอบครัวของเราได้มีโอกาสเข้าร่วมในขบวนแห่นั้น เพราะตั้งแต่ไว้แต่แรกว่า
จะพาแชทไปเล่นน้ำสงกรานต์ พ่อกับแม่ได้รับแจกเสื้อสีม่วงเพื่อเข้าร่วมพิธีเมื่อหลายวันก่อน
ฝ่ายหญิงจะได้รับแจกจ้อง(ร่ม)ไว้บังแดด ฝ่ายชายก็จะมีหมวกปีกกว้างให้ใส่ด้วย
แต่สำหรับน้องแชท เป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นเด็กเล็กสุดของขบวน สำนักหอสมุด
เลยให้เงินสนับสนุนสำหรับซื้อชุดเด็กพร้อมอุปกรณ์ปืนฉีดน้ำ เพื่อความสนุกสนานระหว่างทาง
ครอบครัวเราไปถึงที่สำนักหอสมุดตอนบ่ายโมงครึ่ง แล้วนั่งรถตู้โฟล์คของสำนักไปหน้ามอ.
รวมกันถ่ายรูปที่ศาลาธรรม มีคณะและหน่วยงานอื่นมารวมกันเกือบครบแล้ว
คณะเกษตรศาสตร์ มาด้วยเสื้อเหลืองอะแหร่ม แถมบอกว่าแม่ชะอมย้ายสังกัดไม่ยอมใส่เสื้อเหลือง
ร่วมขบวนคณะเกษตร ขืนทำอย่างนั้นจริงๆ แล้วแปรพรรคไปอยู่เกษตร
รับรองว่าประเมินไม่ผ่านแน่คราวนี้
สังเกตกว่าปีนี้ เสื้อม่วงจะไม่ค่อยเยอะแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าเมืองสีเหลืองอ๋อยกันซะมากกว่า
นอกนั้นก็จะเป็นผ้าฝ้ายสีธรรมชาติ ส่วนแม่ยิงที่ร่วมขบวน อย่างของคณะพยาบาลจะเป็นสีแดงดำ
ดูสวยงามตระการตา คณะสัตวแพทย์ แม่ยิงใส่สีชมพูดำ ดูสวยงามไม่แพ้กัน เรียกได้ว่า
สาวๆ ไม่มีใครน้อยหน้าใคร ยิ่งสาวไม่แท้คณะวิจิตร ยิ่งกว่ารุ้งเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงซะอีก
ขนมชั้นเคลื่อนที่บวกศาลพระภูมิเดินได้เชียวหละ
ตอนบ่ายสามโมงรถประจำสำนักพาเราตามรถนำขบวนของมหาวิทยาลัยมาถนนเส้นออกนอกเมือง
แต่รถก็ติดเอาการอยู่ โดยเฉพาะเส้นจะไปสถานีรถไฟ ถ้าใครขับรถหลงไปตอนนั้น
รับรองกลับตัวไม่ทันแน่ๆ เรียกว่า จะกลับตัวก็ไม่ได้ ให้ไปต่อไปก็ไปไม่ถึง เหมือนเพลงป้าเบิร์ดไม่มีผิด
แต่บรรยากาศก็ชื่นมื่นดี นั่งอยู่ในรถก็เปิดกระจกให้คนสาดเข้ามา น้องแชทยังเอาปืนฉีดน้ำ
ฉีดใส่คนข้างนอกเลย พ่อเอกเจอ PRC Gang เล่นน้ำอยู่หน้าบ้านลุงดวง
เพื่อนๆ แทบจะลากพ่อเอกลงจากรถ นี่ถ้าไม่ติดภาระกิจรับใช้มหาวิทยาลัย
รับรองพ่อเอกต้องไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ พ่อ อยู่ข้างถนนแน่ๆ กว่าจะไปถึงสถานีรถไฟได้
ก็นานเอาการ แต่ไปถึงต้องไปรอขบวนข้างหน้าที่เค้าไปก่อนอีก อย่างที่บอกว่า ขบวนของมช.
จะยาวมาก เค้าเลยให้อยู่ปิดท้ายขบวน รอให้ขบวนของที่อื่นๆ ไปก่อน
แล้วแต่ละขบวนที่แห่กันไป ก็กว่าจะเคลื่อนย้ายกันได้ ต้องมีทั้งฟ้อน ตึง โนง รำดาบ ตีกลอง
สโลว โมชั่น กันสุดๆ เล่นเอาคนท้ายขบวนนั่งรอกันเหมื่อยก้น แชทก็เล่นน้ำใส่ฉีดสาวๆ
ต่างคณะกันให้วุ่น โดยเฉพาะสาวๆ คณะสัตวแพทย์ สาวน้อย สาวใหญ่ สวยกันถ้วนหน้า
แต่สาวที่ถือป้าย แต่งตัวไม่เรียบร้อย คุณป้า ผอ. ของเราถึงกับทนไม่ได้ ลุกไปแต่งตัวให้ใหม่
เรียกได้กว่า ป้าแกไปจัดระเบียบใหม่เลยเชียว ตอนที่เล่นน้ำ สาดน้ำ คนกันเองอยู่นั้น
มีลุงคนหนึ่ง ใส่เสื้อหม้อฮ่อมมา พุงป่องเชียว ลุงๆ ป้าๆ เลยยุให้แชทวิ่งไปฉีดน้ำลุงที่เดินมาคนเดียว
ปรากฎว่าจริงๆ แล้ว คือลุงอธิการบดีนั่นเอง กำลังเดินทักทายจาวหมู่ และบุคลากรคณะต่าง ๆ
พร้อมกับอวยพรวันสงกรานต์ ให้ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า
(ไม่แน่ใจว่า จะอวยพรว่าให้ได้โบนัสกันเยอะๆ หรือไม่นะ) ขบวนมช. ได้เริ่มเคลื่อนขบวนเกือบสี่โมง
เป็นเวลาที่ฝนเริ่มตกลงมาแบบเปาะแปะๆ อากาศก็เลยมืดครึ้ม ร่มที่เตรียมมาให้สาวๆ
เลยได้ทั้งบังแดดบังฝน ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว กว่าขบวนจะเคลื่อนไปถึงสะพานแถวจวนผู้ว่า
ก็ปาเข้าไปเกือบหกโมง ทั้งๆ ที่ความจริง ระยะทางก็ไม่ไกลมากนัก แต่เมื่อข้างหน้าช้า
ข้างหลังจะไปก่อนก็ดูจะไม่งาม ปืนฉีดน้ำของแชทต้องเติมน้ำบ่อย แม่เลยต้องวิ่งไปซื้อ
ปืนอันใหญ่กว่าเดิมมาให้ น้องแชทจะโดนสาดน้ำเยอะกว่าคนอื่นไม่ขบวน
เพราะผู้ใหญ่จ้องจะแกล้งเด็กๆ กัน แต่เด็กๆ ก็สนุกสนานมาก ยิ่งถ้าเจอพวกเดียวกัน
ก็ยิ่งถล่มกันยกใหญ่ หนักไปทางส่งเสียงข่มขวัญกันมากกว่า จะฉีดน้ำให้โดนกัน
แชทเจอสาวน่ารักลูกครึ่งด้วย พยายามจะไปรดน้ำเค้า แต่ก็อายอยู่
ป้าเล็กเลยไปรดน้ำเป็นเพื่อน ปรากฎว่าเอาเข้าจริงไม่กล้ารดเค้า เพราะมัวอาย
เลยเอาน้ำรดเท้าเค้าแทน ทุกคนแถวนั้นโห่กันใหญ่ ป้าเล็กบอกว่า ไอ้ขี้หมา ไม่ได้เรื่องเลย
ขบวนผ่านมาถึงแถวท่าแพ จะโดนฝรั่งสาดน้ำกันเยอะมากขึ้น จนเดินผ่านประตูท่าแพ
แชทก็ยังบอกว่าไหวอยู่ ข้างหน้าของขบวนเราจะเป็นนักศึกษาและนักวิจัยต่างชาติของคณะสังคม
มีนักวิจัยฝรั่งปิ๊งน้องๆ สาวๆ ของสำนักหอสมุดอยู่ ส่วนหนุ่มๆ สำนัก ก็ปิ๊งสาวเกาหลี ญี่ปุ่น
พยายามจะเป็นบอดี้การ์ดให้เธอสุดฤทธิ์ เพราะเธอใส่เสื้อมาซะบางเชียว ตกเป็นเป้าสายตามาก
ส่วนน้องๆ เจ้าหน้าที่ที่เป็นแต๋ว ถ้าเจอฝรั่งหล่อที่ไหน หล่อนก็จะถล่าไปสาดไม่มียั้ง
กลุ่มขบวนข้างหน้าของเรา ซึ่งมีทั้งฝรั่งหล่อ และหนุ่มตี๋ญี่ปุ่น อินเทรน ปรากฎว่า
จะได้รับความสนใจจากสาวๆ ทั้งสาวแท้ สาวเทียม ที่มารอสรงน้ำพระ
วิ่งกันมารดน้ำถึงในขบวนเลยทีเดียว สาวไทยบางคนใจไม่กล้า ก็ส่งตัวแทนมารดให้
แถมบอกว่า คนๆ นั้นฝากมาสาดนะ หนุ่มฝรั่ง หนุ่มตี๋ในขบวน พอเห็นสาวไทยหน้าตาดี
ก็รี่เข้าไปหาเชียว ขบวนด้านหลังของเรา ประกอบไปด้วยสาว Acc ba เป็นที่ร่ำลืออยู่แล้วว่า
สาวๆ บริหารหนะสวย ทำให้ขบวนของสำนักหอสมุด ซึ่งมีแต่ลุงๆ ป้าๆ และสาวๆ อยู่ไม่กี่คน
ถึงกับโดนข่มรัศมีดับไปเลยเชียว พอมาถึงถนนคนเดิน ซึ่งเป็นเวลาหกโมงกว่าแล้ว
คนเริ่มตั้งของขายกันแล้ว ทั้งๆ ที่ปกติจะมีแค่เสาร์อาทิตย์ แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์
คงมีขายของกันตลอด คนเริ่มเล่นกันเยอะขึ้น ถนนก็แคบลงด้วย พวกเราเริ่มจะหนาวมากขึ้น
เพราะเดินมาหลายชั่วโมง แถมตัวเปียกกันไปหมด ลูกชิ้น ซาลาเปา โรตี เลยถูกเหมามาเลี้ยง
คนในขบวนกันทุกขบวน เรียกได้ว่าไม่รักษาภาพลักษณ์กันแล้ว เพราะคนมันหิว
แล้วคนแถวนั้นเริ่มเล่นน้ำใส่น้ำแข็งกัน ยิ่งหนาวกว่าเดิมหลายเท่า
เวลาโดนสาดที เย็นไปถึงขั้วหัวใจ ยิ่งน้องแชทนะ กริ๊ดลั่น แต๋วแตกกันเลยทีเดียว
พูดถึงเรื่องแต๋วแตก หนุ่มหล่อหลายคนของคณะเทคนิคการแพทย์ ปกติก็เก๊กแมนกันสุดฤทธิ์
แต่คราวนี้คงเจอทั้งน้ำทั้งเหล้าเข้าไป เลยเก็บอาการไม่ค่อยจะอยู่ ฟ้อนกันแย้วๆ
เรียกได้ว่า ไม่เข้ากับหน้าตาอันหล่อเหลา และทำเอาประชาชีข้างทางถึงกับตะลึง
ยิ่งสาวๆ ที่เตรียมกะจะสาดน้ำใส่ขบวน คงถึงกับอึ้ง!! กับอาการของหนุ่มหล่อใจสาวเหล่านี้
กว่าเราจะมาถึงหน้าวัดพระสิงห์วรมหาวิหารก็ทุ่มหนึ่งแล้ว เริ่มมืดแล้ว
แต่รถดันจอดอยู่ที่รพ. สวนดอก ต้องเดินต่ออีกเป็นกิโลเพื่อไปขึ้นรถ เดินผ่านคูเมือง
ก็เจอสาดน้ำอีก สงสารน้องแชทเหมือนกันที่ต้องเดินอีก แต่ก็ถือว่าแชทสอบผ่านและอดทนมาก
แม่กับพ่อและคนอื่นๆ แทบเดินกันไม่ไหว แต่แชทยังสนุกและยังไม่รู้สึกเหนื่อย
แต่ก็ถามตลอดทางว่า แม่อีกไกลไหม จะถึงหรือยัง??
กว่าจะกลับถึงบ้าน แชทก็นอนสลบอยู่ในรถแล้ว แม่เอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนให้ในรถ
แชทเลยนอนหลับกลับบ้านอย่างสบาย และก่อนหลับไป แชทบอกว่า ปีหน้ามาอีกนะแม่
พรุ่งนี้จะมีแบบนี้อีกไหม ถือว่าเป็นทริปที่แสนประทับใจทั้งพ่อแม่ลูก
และคนอื่นๆ ที่ได้พบเห็น และรดน้ำแชท ก็ได้สนุกสนานกันทุกๆ คน
—สะ หวัด ดี ปี๋ ใหม่ เมือง เจ้า—