Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for มีนาคม, 2007

 

ผลการพัฒนาความพร้อม ประจำปีการศึกษา 2549
ภาคเรียนที่ 1/ภาคเรียนที่ 2

พัฒนาการด้านร่างกาย 100 ได้ 65 (เทอม 1)
พัฒนาการด้านร่างกาย 100 ได้ 75 (เทอม 2)

พัฒนาการด้านอารมณ์ – จิตใจ 100 ได้ 65 (เทอม 1)
พัฒนาการด้านอารมณ์ – จิตใจ 100 ได้ 70 (เทอม 2)

พัฒนาการด้านสังคม 100 ได้ 65 (เทอม 1)
พัฒนาการด้านสังคม 100 ได้ 70 (เทอม 2)

พัฒนาการด้านสติปัญญา

ภาษาไทย 40 ได้ 38.5 (Top) (เทอม 1)
ภาษาไทย 40 ได้ 39 (Top) (เทอม 2)

คณิตศาสตร์ 40 ได้ 31 (เทอม 1)
คณิตศาสตร์ 40 ได้ 40 (Top)(เทอม 2)

ภาษาอังกฤษ 40 ได้ 32 (เทอม 1)
ภาษาอังกฤษ 40 ได้ 40 (Top) (เทอม 2)

ส.ป.ช. 40 ได้ 38 (Top) (เทอม 1)
ส.ป.ช. 40 ได้ 40 (Top) (เทอม 2)

ศิลป 40 ได้ 36 (Top) (เทอม 1)
ศิลป 40 ได้ 32 (ลดลง) (เทอม 2)

รวมคะแนน 500 ได้ 370.5 (เทอม 1)
รวมคะแนน 500 ได้ 406 (เทอม 2)

คิดเป็นร้อยละ 74.1 ได้เกรด 3 (เทอม 1)
คิดเป็นร้อยละ 81.2
 ได้เกรด 4 (เทอม 2)

งานนี้ลูกไม่ได้เหลิง แต่พ่อกับแม่เหลิง หาว่าลูกเรียนดี
ส่วนลูกชายไม่ได้รู้อะไรเลย คะแนนคืออะไรยังงงอยู่

Read Full Post »


         

          "ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว" ต้องแอบยืมคำของ Andrew biggs
          มาใช้กระตุ้นต่อมในใจ คุยกับช๊อค เพื่อนสมัยเรียน ขอให้เธอแปลอีเมล์ให้
          คนละเรื่องกับแปลด้วยตัวเองเลย จนอดถามกลับไปไม่ได้ว่า…
          เราเรียนจบมาจากที่เดียวกันหรือเปล่านี่???

          สมัยเรียนมหาลัย คนที่เก่งภาษาอังกฤษอยู่ใกล้ตัวเต็มไปหมด
          พงษ์นรินทร์หนุ่มน้อยที่เราแอบปิ๊ง!! พูดภาษาไทยแทบไม่แข็งแรง ทองแดงตลอด
          แต่พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันนาน ไม่รู้อยู่ตรงไหนของโลกใบนี้
          แต่ที่แน่ๆ ชายหนุ่มควรจะไปอยู่ในที่ที่เค้าใช้แต่ภาษาอังกฤษตลอดเวลา
          ดูจะเหมาะกับหน้าตาอินเตอร์แต่สำเนียงไทยทองแดงซะมากกว่า

          เพื่อนๆ ที่เก่งอังกฤษ ก็มีหญิง กบ และช๊อคโกแลต และสองในสามสาว
          ก็มีสามีเป็นคนต่างชาติไปเรียบร้อยโรงเรียนอาจารย์ธิดา ณ ปัตตานี
          ซึ่งก็ไม่ได้เกินความคาดหมายของเพื่อนๆ แต่ประการใด
          และตอนสมัยเรียน Eng อิฉันจำได้ว่าลอกข้อสอบเพื่อนดิวเห็นๆ
          ไม่น่าเชื่อว่าสมัยเรียนมหาลัย เค้าก็ยังให้ลอกข้อสอบกันได้
          หรือคนอื่นๆ เค้าคงคิดว่าภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว คงไม่ลอกเพื่อนให้เสียเวลา
          แต่สำหรับฉันแค่ผ่าน cause ภาษาอังกฤษนั้นมาได้โดยสวัสดิภาพ
          ต้องสำนึกบุญคุณเพื่อนดิวคนสวยไปอีกนานปี

          มีคนแนะนำให้ไปเรียนที่ AUA รับรอง work มาก
          อย่าว่าแต่ AUA เลย แม้น้องสาวตัวเองจะเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนภาษา
          ลิขสิทธิ์ของนิวซีแลนด์ และพี่สาวหล่อนก็อ่อนภาษาอังกฤษมาก
          แถมยังหยิ่งไม่ยอมไปเรียน โดยอ้างว่าไม่มีเวลาซะอีก
          ตอนนี้ได้แต่อ้างว่ารอเรียนพร้อมแชทซะทีเดียว ค่อยไต่ระดับคลาสขึ้นไป
          พร้อมๆ ลูก เพราะนับวันลูกจะพูดอังกฤษได้คล่องปร่อแซงหน้าแล้ว

          วกกลับมาถึงเรื่องเรียนภาษาอังกฤษ นับเป็นโชคดีของบีเพื่อนรัก
          ที่เธอจะได้ไปเรียนภาษาถึงดัลลัส (ชั้นสะกดภาษาอังกฤษไม่ถูกอีกละ อิอิ)
          แล้วเธอจะต้องไปอยู่ไกลบ้านไกลเพื่อนอีกครั้ง แต่คงไม่หวังถึงว่า
          ผลบุญที่เธอไปเรียนนั้นจะส่งมาถึงฉันผู้ไม่รู้ภาษาอังกฤษ 
          ให้พูดภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นมาได้ เพราะของแบบนี้ ถ้าไม่ฝึกฝนเรียนรู้ด้วยตนเอง
          ครูแอนดรูหรือครูคริสสุดหล่อ มาสอนเป็นสิบคน ก็คงพูดไม่ได้
          ท่องเอาไว้ "ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวววววววววว"

Read Full Post »

          ความจริงแล้วฉันไม่ได้ชอบสีชมพูมาแต่กำเนิด สมัยเป็นเด็กบ้านนอก
          แม่จะซื้อเสื้อผ้าหลากสีสันให้ใส่ ตามแต่ว่าตอนนั้นเค้าจะฮิตอะไรกัน
          อย่างหรูสุดก็น่าจะ เสื้อ Adidas เป็นสีๆ แบบวัยรุ่นบ้านนอกต้องมี

          พอโตมาหน่อยตอนเป็นวัยรุ่นมัธยมปลาย ฉันพิศมัยสีแดงมากกว่า
          เพราะประกาศศักดาเป็นสาวกผีแดงมาตั้งแต่เริ่มเป็นสาวน้อย
          ทั้งเป้นักเรียน เสื้อ หมวก (หมวกแมนยู กลุ่มเพื่อนรักฉันเป็นคนซื้อให้)

          จะต้องเป็นสีแดง เรียกได้ว่าจะถูกจะแพงขอให้แดงไว้ก่อน
          อ่าน blog ของอ๋อม อ๋อมบอกว่า มีอีกอย่างที่ซื้อไม่ลงแม้จะเป็นสีชมพูก็คือ
          ฮอนด้าแจ๊ส เกือบไปแล้วอ๋อมเอ๋ย ฉันเกือบซื้อไปแล้ว ไม่งั้นเธอคงล้อฉันแน่ๆ

          ดีที่ว่าสามีวิสัยทัศน์กว้างไกลว่าฉัน บ้านนี้เลยไม่มีแจ๊สสีชมพูเข้ามาอยู่ในบ้าน
          ตอนบอกญี่ปุ่นน้องรัก ซึ่งรายนั้นก็บอกว่า ถ้าหนูซื้อรถต้องสีแดงเท่านั้น
          กว่าเธอจะได้รถสีแดงสมใจ ต้องรอคิวจองอีกหลายเดือน

          ตอนนี้ถ้าฉันถูกหวยแล้วขับรถแจ๊สแดงไปบ้านลำพูน เธอคงอิจฉาตาทะลุ
          เพราะแม่เธอไม่ให้ซื้อแจ๊สสีแดง ได้แต่รถฮอนด้าซีตี้อ้วนสีแดงมาแทน
          (คิดดูละกัน ข่มน้องนุ่งแม้กระทั่งในความฝัน น่าอายจังฉัน)

          ตอนเรียนมหาวิทยาลัยฉันชอบสีฟ้า เพราะว่าเป็นสีของมหาลัย
          และเป็นสีของทะเลที่ฉันเห็นมันบ่อยๆ (ตอนนี้ยังคิดถึงอยู่เสมอๆ)
          จากสีฟ้าที่คุ้นเคย วันนึงฉันนัดเจอกับผู้ชายคนนึง เขาใส่เสื้อเชิ๊ต
สีฟ้า

          มาพบฉันที่ร้านพิซซ่าในครั้งแรกที่เราเจอกัน ตอนนั้นฉันไม่ได้ปิ๊งเขา
          แต่ฉันรู้สึกว่า ผู้ชายใส่เสื้อ
เชิ๊ตสีฟ้าต้องดูดีทุกคนในสายตาฉัน
          เท่าที่เห็นที่ผ่านมาก็จะมี พี่ก้อง นูโว ใส่เสื้อสีฟ้าตอนแสดงละครจะหล่อมาก

          ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้ชอบพี่ก้องเท่าไหร่ เพราะคนอะไรยิ่งแก่ยิ่งหล่อ
          ฮิวท์ แกรนท์ อีกคน ที่ใส่เสื้อสีฟ้าใน Notthing Hill ได้หล่อบาดใจมาก
          สุดท้ายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้ชายที่ฉันแอบ"ปลื้ม"คนล่าสุด

          ถ้าวันใดเห็นเขาใส่เสื้อสีฟ้าฉันจะเห็นเขาดูดีขึ้นมาทันตาเห็น (ปล. โปรดดูภาพประกอบ)

         

          ฉันเริ่มชอบสีชมพูตอนท้องน้องแชท..เพราะคิดว่าตอนนั้นตัวเองจะได้ลูกสาว
          หารู้ไม่ว่าพอห้าเดือนผ่านไป ได้ลูกชายเห็นๆ จากคุณแม่ชุดสีชมพู
          เลยต้องเปลี่ยนมาเป็นสีฟ้าและสีอื่นๆ บ้าง และเมื่อเวลาผ่านไป

          ความชอบสีชมพูก็ยังไม่ลดลง เวลาซื้อเสื้อผ้าก็จะซื้ออยู่แค่สองสี
          คือถ้าไม่ฟ้าก็ชมพู ตอนนี้เลยคิดว่า ถ้าแบบถุกใจ ก็ซื้อพร้อมกันสองสีไปเลย
          แต่ไม่ถึงขนาดอ๋อมที่ซื้อของทุกอย่างเป็นสีชมพู (อิฉันซื้อแต่เสื้อผ้าก็บ้าพอละ อิอิ)

          เพราะมีครั้งหนึ่งที่ซื้อเสื้อสีฟ้ามา ปรากฎว่าใส่แล้วชอบ ต้องกลับไปซื้อสีชมพูอีก
          แต่ว่าได้มาคนละไซส์เลย ตอนไปนครศรีธรรมราช ไปเจอกำไลสีชมพู
          ถูกใจมากเลยซื้อมา แต่ไม่ได้ซื้อสีฟ้าคู่มันมาด้วย คิดแล้วตอนนี้น่าเสียดาย

          ถ้าซื้อกำไลสีฟ้ามาด้วย ก็จะได้ใส่สลับกัน จะกลับไปซื้อก็ยังเสียดายค่ารถอยู่
          ยิ่งเห็นนางเอกเกาหลีเขาใส่ชุดสีฟ้ากับชมพูมิ๊กกันทั้งสองสี ทำเอาต้องเลียนแบบเลย
          แม้หน้าตาจะไม่ให้เท่าไหร่นัก แต่ก็ด้วยความชอบเป็นทุนเดิม เลยกล้าใส่ได้ไม่อายผู้คน

          ปล. บทความนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากอ๋อมเพื่อนรัก เพราะเธอชอบสีชมพู
          และเขียนเกี่ยวกับเรื่องสีชมพู ทำให้เราต้องเอาอย่างบ้าง เดี๋ยวน้อยหน้าเพื่อน อิอิ

Read Full Post »

          หลังจากที่เราผ่านพ้นเวลาของการเป็นคนอายุสามสิบกันทั้งสองคนแล้ว
          พ่อหมูอ้วนกับแม่หมูตุ้ย ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคของการทำงานอีกก้อนโต
          ได้แต่แอบหวังว่าผลตอบแทนที่ได้รับมันคงจะก้อนโตพอๆ กับอุปสรรคที่พบเจอ

          พ่อหมูอ้วนบอกว่า ต้องแสดงพลังให้เขาได้รู้ถึงความสามารถของเรา
          ดีใจที่พ่อมีกำลังใจที่ดีกว่าแม่…เพราะว่าถ้าเป็นแม่น้องจะใจแป้วมากกกก
          เมื่อโดนลูกค้าคอมเม้นต์งานแบบต้องรื้อหรือต้องแก้ใหม่กันเกือบหมด

          ได้แต่ขอเป็นกำลังใจให้พ่อหมูอ้วนในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการงาน
          นอกจากจะคอยเป็นกำลังใจและเอาใจใส่อย่างที่เคยทำอยู่เป็นปกติแล้ว
          สมควรแก่เวลาที่จะต้องงดการนอนเผื่อ มาอดหลับอดนอนเป็นเพื่อนกัน
          คงจะดีกว่าเป็นไหนๆ เพราะการนอนเผื่อแล้วเอาใจช่วยอยู่ในฝัน
          มันเป็นการบั่นทอนกำลังใจกันเกินไป สู้ๆ นะพ่อนะ เพื่อแชท เพื่อครอบครัวเรา!!

         
          ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เจ๊เรียลฯ
          http://www.thaimung.net/lanthaimung/webboard/05103.html

Read Full Post »


วันที่ 23 มีนาคม 2550 ที่โรงเรียนแชทมีงานประจำปี
เมื่อปีที่แล้วตรงกับวันที่ 24 มีนา วันเกิดแม่
แต่ปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ซึ่งก็จัดใกล้เคียงกันทุกปี
และมีสิ่งน่าประหลาดใจเกิดขึ้นอีกแล้ว
น้องแชทได้รับเกียรติบัตร "ผู้มีผลการเรียนดีเด่น"
เมื่อปีที่แล้วน้องแชทได้รับรางวัล "ผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่น"
แต่ปีนี้พ่อกับแม่ยังไม่ทันได้ลุ้นเท่าไหร่เลย
เพราะว่าครูประกาศชื่อเด็กชายกฤตนท์ ชัยมินทร์ คนแรก
ตามด้วยชื่อน้องอิ๊งค์ เพื่อนสนิทของแชท
ห้องน้องแชทได้รับรางวัลสองคน จาก 25 คน
ตอนแรกแม่นึกว่าแชทจะได้รางวัลมารยาทดีหรืออะไรทำนองนี้
เพราะว่าในห้องแชทมีเด็กที่เป็นพี่ๆ เค้าเรียนเก่งกันหลายคน
แม่ไม่ได้กลัวน้องแชทเหลิงเพราะได้รับรางวัล
แต่แม่กลัวตัวแม่เองมากกว่า เพราะแม่เห่อมากกว่าแชทซะอีก
เวลาแชทได้รางวัล ถือเป็นของขวัญวันเกิดของแม่และพ่อ
เพราะพรุ่งนี้วันเกิดแม่ วันอาทิตย์เป็นวันเกิดพ่อ
เป็นของขวัญวันเกิดที่มีค่ากว่าสิ่งของใดๆ ที่ลูกจะมอบให้แม่กับพ่อซะอีก

พอครูประกาศชื่อให้ไปเตรียมตัวรับรางวัล
แม่โทรหาตาพลกับยายอ่อนทันที
เพราะนอกจากแม่กับพ่อที่ตื่นเต้นแล้ว
ต้องให้ตาพลกับยายอ่อนช่วยตื้นเต้นด้วย
เสียงตาพลดีใจมาก ยายอ่อนก็ชื่นชมและแย่งกันคุยโทรศัพท์
และคงสมใจกับรางวัลนี้ แม่เลยโทรให้น้าโภชน์มาดูแชทเต้น
และมาดูตอนรับรางวัลด้วยอีกคน น่าเสียดายที่ย่าศรีไม่ได้มาด้วย
แต่พอกลับมาถึงบ้านย่าก็ดีใจไม่แพ้กัน พรุ่งนี้ต้องเอาไปโม้กับเพื่อนย่าแน่ๆ
พ่อแม่ของเพื่อนแชทหลายคนมาแสดงความยินดีกับแม่
และชมว่าเลี้ยงลูกดี แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เลย
แม่ก็เลี้ยงแชทแบบประสาแม่ ทั้งจิก ทั้งด่า และอบรมสั่งสอน
แต่แชทโชคดีที่ได้ครูสอนที่ดี ทำให้แชทซืมซับรับรู้เรื่องราวต่างๆ
ต้องขอบคุณ คุณครูที่โรงเรียนวีรยาเป็นอย่างมาก
ถือว่าเป็นรางวัลเบิ้ลสำหรับวันเกิดสองปีซ้อน
พ่อบอกว่า ดีจังเลยปีนี้ได้รับเกียรติบัตรกันทั้งแม่และลูก
พ่อยังไม่ได้รับเลย (ทำเสียงน้อยใจ) แต่แชทบอกพ่อว่า
พ่อได้รับปริญญาจากพระเจ้าอยู่หัวแล้ว (ชี้ไปที่รูปภาพ)
แม่กับพ่อยังคิดไม่ถึงเลยแฮะ ว่าแชทจะปลอบพ่อแบบนี้
ปีหน้าแม่คงไม่หวังว่าแชทจะได้รางวัลอีก
เพราะแค่มีแชทในทุกวัน ก็ถือว่าเป็นรางวัลที่มีค่ามากที่สุดในโลกของแม่และพ่อแล้ว


Read Full Post »

วันเกิดพี่มอส

วันนี้วันเกิดพี่มอส

พี่มอสอายุ 34 ปีแล้ว

เมื่อไหร่จะแต่งงานแต่งการซะที

หรือว่ารอสาวคนไหนไปขออยู่นะ

สุขสันต์วันเกิดที่มอสพี่ชายที่แสนดี
มีความสุขมากๆ นะคะ

Read Full Post »

เพียงแต่เราได้เรียนรู้ว่า ความรักไม่ได้แปลว่าหาคนที่ดีที่สุดมาเพื่อตัวเอง
…แต่คือคนที่พอดีสำหรับเรามากกว่า…

จาก…ความรักของอ้นกับคนที่พอดี (สราวุธ มาตรทอง) มติชน อังคารที่ 20 มี.ค. หน้า 24


หากได้ทำในสิ่งที่รักแล้วจะเกิดความรู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้ทำ
ซึ่งจะทำให้งานออกมาดี แล้วเราก็ทำอย่างมีความสุข ไม่ใช่การฝืนใจทำ
เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือ การค้นหาตัวเองให้เจอ
โดย…ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล http://karnngern.com/newgen.asp

Read Full Post »


            

          "ผมเปงเด็กบ้า…มาจากยี่ปุ่ง" เป็นภาษาไทยคำแรกที่อิฉันใช้สอนนักเรียนแลกเปลี่ยน
          ในคอร์สเรียนการสืบค้นฐานข้อมูลเบื้องต้นสำหรับเด็กมหาลัย เพื่อใช้สืบค้นข้อมูลทำรายงาน
          เด็กๆ บัดดี้คนไทย ฮากันตรึม แต่พวกเขาคงขำไม่ออก ถ้าเขาแปลได้ 
          เด็กญี่ปุ่น 15 คน ต้องใช้ชีวิตตอนพักกลางวันและบ่ายในห้องสมุด เพื่อเช็คเมล์ ค้นคว้าข้อมูล
          และเบิกบานกับการเรียนภาษาไทยแบบ กุ๊กุ๊ ม๊ะม๊ะ

          อิฉันถามว่า Do you Know กุ๊กุ๊ ม๊ะม๊ะ?เด็กยุ่นทำหน้าทำตาคิด เพราะคงคิดว่า
          เป็นคำภาษาญี่ปุ่นรุ่นบิดามารดาพวกเค้าแน่ๆ แต่เค้าคงเกิดไม่ทัน
          หรือไม่มันคง Out ไปในแดนปลาดิบแล้ว แต่น้องหนูกระเทยบัดดี้ทำแซว
          แหมเจ๊ เล่นกำเมือง แบบเมียงงงงขนาด ข้าเจ้ายังเกิดบ่อตันเลย  

          กุ๊กุ๊ ม๊ะม๊ะ ภาษากำเมืองแปลว่า พูดได้บ้างไม่ได้บ้าง เหมือนอู้กำเมืองปนไทย อู้ไทยปนเมือง
          ไม่พูดภาษาใดภาษาหนึ่งให้แน่ ถ้าเป็นวิถีเซเลป คงประมาณไทยคำอังกฤษคำ 
          แต่สำหรับเด็กญี่ปุ่น เด็กบัดดี้ไทย และเจ๊บรรณฯ วัยย่าง 30 คนนี้ เราทั้งสามสปีชี่ 
          พูดภาษาอังกฤษกันได้แบบ กุ๊กุ๊ ม๊ะม๊ะ จึงเป็นเรื่องสบายที่เราไม่ต้องหวั่นไหวกับ tents ใดๆ 
          หรือรูปประโยคจะเป็นแบบไหน เด็กญี่ปุ่นก็ไม่ได้สนใจหรอก 

          วันๆ ก็สนใจอยู่แต่ว่าคืนนี้บัดดี้จะพาไปเที่ยวผับไหน พอเจ๊ถามว่าไปมังกี้กันมาหรือยัง 
          ทุกคนขานรับกันถ้วนหน้า เยสสสสส สงสัยจะติดใจ ไปเห็นเด็กไทยสายเดี่ยวและหนุ่มเซ้ป 
          ดิ้นกันสุดเหวี่ยง สาวๆ ก็มุ่งมั่นกับการเรียน ยูกะ (โยคะ) เมื่อไหร่พวกหล่อนออกเสียงโยคะได้ซักที
          ยูกะ ๆ ทุกทีไป ทำเอาพี่เลี้ยงมืนกันไปหลายตลบ เวลาจะต้องไปส่งหล่อนเล่น ยูกะ!!!

Read Full Post »

เป็น”ปลื้ม”

         
          ภาพประกอบจาก
http://www.positioningmag.com

          "ปลื้ม" ผู้ชายคนนี้มาตั้งนานแล้ว เมื่อวานเพิ่งแอบสารภาพกับสโรชาเพื่อนหนิดไป
          เปิ้ลบอกว่า ไม่เคยดูวะ ปลื้มไหน??
 หล่อนเปิดมาดูทีวี ก็ยัยสี่สาวเมาท์กระจายแล้ว
          เลยคะยั้นคะยอให้เปิ้ลเปิดทีวีให้เร็วกว่าเดิมอีกหน่อย เพื่อดูคุณปลื้ม
          เผื่อจะได้ปลื้มเป็นเพื่อนกัน เหมือนกับที่เคยแอบปลื้มเจ้าชายจิกมีเหมือนกันว่างั้นเหอะ

          เมื่อก่อนตอนคุณปลื้มอ่านข่าว Newsline ช่อง 11 ตอนนั้นก็ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้าง 
          แต่อาศัยเอาความปลื้มส่วนตัว แอบฟังและแอบปลื้มอยู่ห่างๆ
          ตอนนี้คุณปลื้มมาโผล่หน้าจอทุกเช้าวันทำงาน เลยมีกำลังใจตื่นเช้ามาปลื้มคุณปลื้ม
          อย่างเป็นทางการมากขึ้น ยิ่งถ้าวันศุกร์ที่คุณปลื้มใส่ชุดผ้าไทยอ่านข่าว
          ทำให้ดูดีมีชาติตระกูลขึ้นอีกเยอะ (ปกติก็ชาติตระกูลโครตดีอยู่แล้ว เลยไม่ต้องพยายามมาก)

          คนที่ชอบในทีวีที่ไม่ใช่ดาราอีกคนคือคุณปรมี แสวงรุจ ชายหนุ่มแห่ง National Geographic
          คนนี้ก็ไม่หล่อแต่ดูดี แต่รวมๆ แล้วสเปคไม่คลาดเคลื่อนไปจากเดิมเท่าไหร่
          ทั้งคุณปลื้ม คุณปอม ปรมี ดีไม่ดีถ้าวันนึง มีไฮโซนามสกุล "หาญสวัสดิ์"
          โผล่มาสอนตีกอล์ฟอยู่หน้าจอ แบบที่ไฮโซเค้าฮิตออกทีวีกันตอนนี้
          ป๋าร้อยหลุมแบบคุณณัฎฐ์ เทพหัสดิน คงชิดช้าย แต่จะว่าไปคุณชาย ก. ขายลูกชิ้นอะดีแล้ว
          อย่าโผล่มาให้สาวๆ หมายปอง แบบหนุ่มปลื้ม หนุ่มปอม กันเลย (อิฉันขอร้อง)

          วกมาถึงเรื่องคุณปลื้มอีกที วันนี้ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคุณปลื้มในมติชน
          ก็เลยเป็นปลื้มจนต้องมาเขียน blog ไว้เป็นระลึก เนื่องจากเป็นการแสดงความปลื้ม
          ที่พยายามไม่ให้ออกนอกหน้าตามประสาแม่ลูกหนึ่ง เพราะเดี๋ยวคนที่บ้านจะไม่ปลื้ม
          แต่จะว่าไป คนที่บ้านที่สอยมาได้ก็สไตล์หนุ่มเหล่านั้นแหละ เพราะถ้าคนที่ซี้กันจริงๆ
          ก็จะรู้ว่า สเปคที่อิฉันปลื้ม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

Read Full Post »


         

          เกือบสัปดาห์แล้วที่เมืองเชียงใหม่ ปกคลุมไปด้วยหมอกและควัน
          เวลาเที่ยงวันกว่าๆ ยังมองไม่เห็นแสงอาทิตย์ ขมุกขมัวเหมือนรัฐบาลชุดนี้ไม่มีผิด
          (เกี่ยวกันไหมนี่) เวลาออกจากบ้านไม่อาจหาญปั่นจักรยานออกไปไหนๆ
          เอารถยนต์ไปก็ต้องเปิดแอร์ เปลืองน้ำมันอีกต่างหาก

          เห็นทางการบอกว่า ทำฝนหลวงไม่สำเร็จ (ใช้ภาษาชาวบ้านดีแท้เรา)
          พายุฤดูร้อนที่ทางการประกาศเตือน ก็ไม่เห็นพัดมา ในที่ที่เค้าไม่อยากให้พัด
          ก็ดันไปพัดหลังคาบ้านเค้าถล่มทลาย ทีคนเชียงใหม่อยากได้ฝนมาซะล้างหมอกควัน
          เทวดาก็ไม่เป็นใจเลย มีสิ่งหนึ่งที่มากับหน้าแล้ง นอกเหนือจากหมอกควันหนาทึบ
          คือดอกเหลืองอินเดีย บานสะพรั่งทั่วทุกหัวเมือง ยิ่งแล้งดอกยิ่งสวย
          แม้จะมีแค่สีเหลือง แต่เขาก็เหลืองได้ใจจริงๆ ต้นเล็กต้นน้อยก็แข่งกันออกดอกแล้ว

          เมื่อสามปีก่อนสาวๆ คณะเกษตรก็เคยระดมปลูกกันหลังคณะ ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้นอะไร
          แต่ไปช่วยกันปลูกเพราะปลื้มอาจารย์สุดหล่อที่สอน Land scape กัน
          อาจารย์เค้าให้ช่วยปลูกก็ปลูกกันไปงั้นๆ แถมมีบางคนคงแอบอธิษฐานยังกับปลูกต้นรัก
          ว่าชาติหน้าขอให้เกิดเป็นคู่กับอาจารย์ สุดท้ายชายหนุ่มก็หายหน้าไป นัยว่าไปเป็นอาจารย์
          อยู่เมืองบางกอก มีโอกาสก้าวหน้าได้มากกว่า ทิ้งต้นไม้ดอกไม้ไว้เบื้องหลัง เอาไว้ให้สาวๆ ได้คิดถึง 
          มาปีนี้…ดอกไม้นั้นได้เวลาผลิบานสีเหลืองเต็มต้น สาวๆ ตื่นเต้นกันใหญ่
          คงเผลอคิดถึงใครบางคนที่ร่วมกันปลูกต้นรัก เอ้ย!! ต้นไม้เมื่อสามปีที่ผ่านมาด้วย

          ที่หน้าศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ มีต้นศรีตรังอยู่ 4 ต้น เวลาหน้าแล้งมาถึง มันออกดอกสีม่วง
          ต้นศรีตรังเป็นสัญลักษณ์ของ มอ. แต่ที่มอ. ไม่ค่อยออกดอกสีม่วงเต็มต้นให้เห็น
          สงสัยจะปลูกผิดที่ เพราะไปปลูกในเขตรั้วสีบลู ดอกศรีตรังจะออกดอกสีฟ้า ก็คงกระไรอยู่
          ที่รั้วสีบลู ต้นศรีตรังส่วนใหญ่จะออกใบมากกว่า พอมาอยู่ที่มช. ซึ่งเป็นรั้วสีม่วง
          เลยดอกดอกสะพรั่ง แข่งกับต้นชงโค ต้นตะแบก และต้นสารพัดดอกสีม่วงทั้งหลาย

          แม้เชียงใหม่จะขมุกขมัวไปด้วยม่านหมอกและมลพิษ แต่ในความมืดมัวนั้น
          มีสีสันของดอกไม้หน้าแล้ง แข่งกันบานสะพรั่งอยู่ละลานตา
          อย่าเพิ่งบ่น อย่าเพิ่งเบื่อ ยังไงเชียงใหม่ก็ยังน่าอยู่เสมอ หากเลือกมองในบางมุมที่งดงาม

           

Read Full Post »

Older Posts »