Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for กรกฎาคม, 2007

ขอแลก

          ในวันที่คนอื่นๆ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องรับผิดชอบที่จะต้องให้บริการใครๆ 
          ในวันที่ฉันเฝ้าถามตัวเองว่า ฉันมาถูกทางแล้วเหรอ กับชีวิตที่ฉันเลือกเดินนี้
          ค่าตอบแทนที่ฉันได้รับ ความชื่นชมที่ผู้ใหญ่ หรือใครๆ รอบข้างที่มีต่อฉัน 
          มันคุ้มค่าไหม กับสิ่งที่ฉันได้พยายามทุ่มเทที่จะทำมันให้ดีเสมอมา

          วันนี้ฉันทำพยายามทำอะไรๆ อย่างสุดความสามารถ เพื่อคนอื่นๆ
          แต่มีใครบางคน ที่อยู่ใกล้ชิดกับฉันมาตั้งแต่วัยเด็ก อยากได้กำลังใจ
          ฉันกลับไปหาเขาไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขา ไม่ได้ต้องการให้ฉันช่วยเหลืออะไรเลย
          เขาแค่อยากเห็นหน้า และขอกำลังใจจากฉัน ก็เพียงเท่านั้น

          มีใครบางคนถามฉันว่า เธอมีความสุขดีไหม กับสิ่งที่เธอพยายามทำสุดความสามารถ
          แต่เพื่อคนอื่น คนอื่นที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นคุณค่าความสำคัญของจิตใจ
          มากไปกว่า ผลงานที่ได้รับและเป็นประโยชน์ต่อเขา ในขณะเดียวกัน
          เธออ้างว้างบ้างไหม กับการเดินไปข้างหน้า โดยที่มุ่งไปที่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ

          แต่เธอลืม ลืมที่จะนึกถึงว่า มีคนที่รักและห่วงใยเธออีกเท่าไหร่ ที่เขารอคอย
          รอคอยที่จะได้พบหน้า พบเจอ และถามไถ่แค่ว่า เธอสบายดีไหม มีอะไรจะเล่าให้ฟังไหม
          ณ วันนี้ เวลานี้ ฉันอยากจะขอแลก ชื่อเสียงเงินทอง หรือหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จ
          แลกกับรอยยิ้มและความสุขของคนรอบข้างที่หวังดีและห่วงใยฉัน มันจะเป็นไปได้ไหม

          ฉันไม่ต้องการอีกแล้ว การถูกยอมรับให้หน้าที่การงาน การถูกยกย่องให้เกียรติ
          หรือการเชิดชู เสแสร้งใดๆ ฉันขอแลกกับความสุขที่ฉันและคนรอบข้างพึงจะมี
          มันยังไม่สายไปใช่ไหม สำหรับสิ่งที่ฉันขอแลก ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
          ขอแค่คนรอบข้างฉันและตัวฉัน มีความสุขกันตามประสา ไม่อยากได้อีกแล้ว
          กับสิ่งลวงตาทั้งหลาย ได้โปรดเถิดนะ ให้โอกาสฉันได้แก้ตัวอีกสักครั้ง…

Read Full Post »

กางเกงคุณผู้ชาย

          เงินเดือนออกแล้ว น้องชายสุดหล่อเลยชวนไปห้าง เพื่อไปซื้อกางเกงยีนส์
          คุณน้องชายบอกว่า ขอยืมบัตรรูดหน่อยนะ จะซื้อกางเกงยีน wrangler
          รายได้ต่ำแต่รสนิยมสูงอีกแล้วน้องเรา แต่พอไปถึงก็ไม่กล้าซื้อจริงๆ
          เพราะว่าไม่ได้อยู่ในช่วงลดราคา ทำให้ซื้อไม่ลงเลยทีเดียว

          ฉันเตรียมกางเกงคุณผู้ชายไปจากบ้านแล้ว เพื่อเอาไปเทียบไซส์ 
          กางเกงสำหรับใส่ทำงานสีดำ ยี่ห้อนี้เท่านั้น ที่คุณสามีบอกมา
          ปรากฏว่า ก็เหมือนกับกางเกงยีนส์ของน้องชาย คือยังไม่อยู่ในช่วงลดราคา
          จึงทำให้ไม่สามารถซื้อหายี่ห้อที่คุณสามีระบุไว้ได้ เพราะแพงเกินความจำเป็น

          เลยไปซื้ออีกยี่ห้อหนึ่ง ที่ลดราคาอยู่ แถมแบบก็คล้ายๆ กัน
          แต่พอเอาไปให้สามีดู ยังมีติติงอยู่นิดหน่อย ว่าผ้าไม่เหมือนกันนะ 
          ของเก่าเหมือนจะเนื้อผ้าดีกว่า จริงๆ แล้ว เนื้อผ้าไม่ได้สำคัญเท่ากับว่า
          มันรีดง่ายหรือรีดยาก เพราะมันลำบากคนรีดอย่างฉันมากกว่า

          คุณสามียังไม่พอใจ ถามแล้วถามอีกว่า แล้วยี่ห้ออื่นๆ ไม่มีเหรอ
          ทำไมถึงต้องเป็นยี่ห้อนี้ แล้วอันอื่นไม่ลดราคาเหรอ จริงๆ แล้วคงมีแหละ
          แต่ขี้เกียจเดินหาแล้ว เพราะคนขายเนี่ย ใช่จะสนใจแม่บ้านคนจ่ายตังค์อย่างฉัน
          คนขายแอ๊บแมน พยายามจะเทคแคร์น้องชายฉันสุดฤทธิ์ แบบถึงเนื้อถึงตัว

          ทำเอาน้องฉัน ต้องแถไปเลือกกางเกงยีนส์ยี่ห้ออื่นๆ อีกฟาก อยู่เป็นนานสองนาน 
          ฉันเลยตัดสินใจเลือกยี่ห้อใหม่นี้ให้สามี และรอคนขายสอยขากางเกงให้พอดี
          พอสามีเห็นตอนที่ฉันซื้อมาแล้ว ยังพยายามถามเหตุผลที่ฉันเลือกยี่ห้อนี้
          ฉันเลยบอกว่า ถ้ารู้แล้วอาจจะไม่ปลื้มก็ได้ พอดีนายแบบคนล่าสุดที่ฉันเห็น

          เขาเดินแบบให้ยี่ห้อนี้อยู่พอดี ถ้าอยากเห็นภาพประกอบ จะส่งเมล์ให้ดู
          สามีบอกว่า ไม่ต้องๆ ไม่ได้ปลื้มๆ ไม่ต้องส่งมา วันหลังซื้อทิด้ามาให้ด้วยเลยสิ
          ไม่รู้ประชดหรือว่าอยากได้จริงๆ นี่ถ้าถูกหวย จะซื้อมาประชดเหมือนกันนะเนี่ย
          เค้ามีแต่หล่อเลือกได้ นี่ไม่หล่อแล้วยังเรื่องมากอีก สามีใครเนี่ย หุหุ 
         

         

Read Full Post »


          เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บทบาทของห้องสมุด คือการเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้
          ของนักเรียน นักศึกษา คณาจารย์ นักวิจัย รวมถึงประชาชนทั่วไปในชุมชน 
          และภารกิจสำคัญที่ทำให้ห้องสมุดตอบสนองความต้องการของบุคคลเหล่านั้นคือ
งานบริการ
          เพราะหัวใจหลักของงานห้องสมุดก็คือ
การให้บริการ นั่นเอง

          การบริการ (Services) เป็นงานที่ค่อนข้างซับซ้อน หลากหลาย ละเอียดอ่อน และมักจะเกี่ยวข้อง
          กับผู้คน ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ในฐานะที่ทุกคนถือว่าเป็นผู้บริโภคด้วยกันทั้งนั้น
          การให้บริการของห้องสมุด เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับการก่อตั้งห้องสมุดเลยก็ว่าได้ 
          เพราะถ้าหากห้องสมุดไม่มีงานบริการ หรือไม่มีการให้บริการสารสนเทศใดๆ ก็คงไม่ต่างจาก
          ห้องที่จัดเก็บหนังสือไว้ โดยไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์แต่อย่างใด

          
         
ในยุคของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
การตลาดบริการ เข้ามามีบทบาทสำคัญ
          ในการดำเนินธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ในองค์กรใด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า 
          หรือแม้แต่องค์กรที่ไม่หวังผลกำไรเช่นห้องสมุด เนื่องจากในปัจจุบันทุกองค์กรต่างให้ความสำคัญ
          กับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ และความพึงพอใจที่จะเกิดขึ้นได้นั้น ย่อมเป็นผลมาจาก
          การบริการที่ลูกค้าได้รับจากสถาบันหรือองค์กรผู้ให้บริการนั้น

          ในส่วนของห้องสมุด ซึ่งอยู่ในฐานะ
องค์กรที่ให้บริการสารสนเทศ สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการมากที่สุด
          จากห้องสมุดคือ
คุณภาพของการบริการสารสนเทศ ซึ่งหมายถึง การคำนึงถึงสิ่งที่ผู้ใช้
          ต้องการและจำเป็น ไม่ใช่สิ่งที่บรรณารักษ์คิดว่าจำเป็น
ฉะนั้น บรรณารักษ์ผู้ให้บริการสารสนเทศ 
          จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนตนเอง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่า 
          
คุณภาพของงานบริการ คือความพึงพอใจของผู้ใช้ และผู้ให้บริการต้องให้บริการ
          ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
บรรณารักษ์จึงจำเป็นจะต้องใช้ยุทธวิธี เทคนิควิธีการต่าง ๆ 
          ที่รวดเร็ว ทันสมัย และเพื่อให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงในยุคสังคมสารสนเทศนี้

          ภารกิจเกี่ยวกับการบริการสารสนเทศ จึงเป็นหน้าที่ของบรรณารักษ์ ที่ต้องปรับเปลี่ยนบทบาท
          และวิธีการดำเนินงานให้เหมาะสมกับยุคสมัย เพื่อแก้ปัญหาและลดความยุ่งยากในการเข้าถึงสารสนเทศ 
          และเมื่อบรรณารักษ์ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติและการทำงานในรูปแบบใหม่
หลักการตลาด
 
          จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับวิชาชีพบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ โดยเชื่อกันว่า
การตลาด 
          จะมีส่วนช่วยในการพัฒนางานบริการของห้องสมุด ให้ก้าวหน้าและตอบสนองความต้องการ
          ของผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น

 

          หลักการตลาดที่นำมาใช้ในงานบริการสารสนเทศ เรียกสั้นๆ ว่า กลยุทธ์การตลาด กล่าวคือ 
          กลยุทธ์การตลาดเป็นการวางแผนการดำเนินงานห้องสมุด เพื่อทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการ 
          ที่เรียกว่าส่วนประสมทางการตลาด
(Marketing Mix) หรือ 4P ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์ (Product) 
          สถานที่ให้บริการ (Place) ราคา (Price) และการส่งเสริมการใช้สารสนเทศและบริการ (Promotion) 
          
ในการวางแผนการดำเนินงานของห้องสมุด จะทำให้เราทราบถึงสิ่งที่ต้องทำก่อนหลัง 
          และยังสามารถช่วยให้เข้าใจถึงความต้องการของผู้ใช้ และนำไปใช้ในการจัดหาทรัพยากรสารนิเทศ 
          เพื่อให้สามารถจัดบริการให้สนองตอบต่อความต้องการของผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

          ในปัจจุบัน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสารสนเทศ ได้ตื่นตัวและให้ความสำคัญ
          กับการนำ
กลยุทธ์การตลาด มาใช้ในงานบริการสารสนเทศอย่างกว้างขวางยกตัวอย่างเช่น 
          สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) หรือที่รู้จักกันดีในนามของทีเคพาร์ค โดยคุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช 
          ประธานกรรมการ สอร. ได้ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายและแผนการดำเนินงานของทีเคพาร์ค ว่า 
          
ตลอดระยะเวลาสองปีกว่าที่ทีเคพาร์คได้ก่อตั้งมา สิ่งสำคัญที่สะสมมาคือ องค์ความรู้ที่มีอยู่ 
          เป็นคลังข้อมูลที่สำคัญ และตอนนี้ทีเคพาร์คพร้อมแล้วที่จะลงสู่ชุมชนทั่วประเทศ 
          โดยจากนี้วิสัยทัศน์ของทีเคพาร์คจะมองภาพรวมเหมือนเป็นการตลาด นำสิ่งที่เป็นองค์ความรู้ที่มีอยู่ 
          แล้วใช้การตลาดในรูปแบบของการประชาสัมพันธ์ ผ่านองค์กรและเครือข่ายต่างๆ 
          เพื่อให้เข้าถึงประชาชนให้มากที่สุด

          สำหรับสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้บริการในลักษณะของการนำ กลยุทธ์การตลาด มาใช้ 
          ตามหลักของส่วนประสมทางการตลาด ดังนี้  
          
·         Product โดยในรูปแบบของสำนักสมุดจะหมายถึง ผลิตภัณฑ์หรือบริการของห้องสมุดนั่นเอง 
          ซึ่งบริการของห้องสมุด ยกตัวอย่างเช่น บริการยืม
คืน บริการสืบค้นข้อมูลสารนิเทศ 
          บริการตอบคำถามช่วยการค้นคว้า บริการวารสารและเอกสาร บริการโสตทัศนวัสดุ บริการนำส่งเอกสาร
          ระหว่างห้องสมุด บริการยืมระหว่างห้องสมุด เป็นต้น ห้องสมุดได้จัดให้มีบริการต่างๆ 
          เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพื่อให้ทรัพยากรสารนิเทศที่ห้องสมุด
          ได้จัดซื้อจัดหามา ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า 
         
·         Place คือสถานที่ให้บริการหรือช่องทางการให้บริการสารสนเทศของห้องสมุด 
          ในส่วนของอาคารสถานที่นั้น สำนักหอสมุดได้ปรับปรุงห้องสมุดให้เป็นห้องสมุดมีชีวิต 
          ทำให้มีบรรยากาศน่าเข้ามาใช้บริการ มีอาคารสถานที่ที่สวยงาม และมีป้ายบอกแหล่งทรัพยากรสารนิเทศ
          ที่ชัดเจน สำหรับช่องทางในการให้บริการสารสนเทศ ได้มีการจัดทำเว็บไซต์ของห้องสมุด 
          เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลของห้องสมุดได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทางมายังห้องสมุด 
          ซึ่งถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการในการเข้าถึงทรัพยากรสารนิเทศของห้องสมุด
          ได้อีกทางหนึ่งด้วย
และสำนักหอสมุดได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ 
          โดยมีทั้งโครงการพัฒนาเครือข่ายห้องสมุดมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
(ThaiLIS) ข่ายงานห้องสมุด
          มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค
(PULINET) หรือโครงการเครือข่ายการใช้ประโยชน์ร่วมกันด้านห้องสมุด
          สถาบันอุดมศึกษาภาคเหนือตอนบน
(UPPER NORTHNET) เป็นต้น เครือข่ายความร่วมมือเหล่านี้
          จะเอื้อประโยชน์ต่อห้องสมุดต่างๆ ในการใช้ทรัพยากรสารนิเทศร่วมกัน ส่งผลให้ผู้ใช้บริการ
          สามารถใช้ทรัพยากรสารนิเทศจากห้องสมุดต่างๆ ได้อย่างมากมาย หลากหลาย 
          และสะดวกในการขอใช้บริการไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใด
         
·         Price สำหรับในส่วนของราคา เนื่องจากสำนักสมุดเป็นองค์กรที่ไม่ได้หวังผลกำไร 
          จึงไม่สามารถวัดมูลค่าในเรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียว แต่จะพิจารณาว่าผู้ใช้ได้รับบริการ
          ที่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปหรือไม่ โดยสำนักหอสมุดมีความต้องการที่จะพัฒนาบริการของตนเอง
          ให้ผู้ใช้บริการรู้สึกว่าคุ้มค่าเมื่อมาใช้บริการ 
         
·         Promotion ในส่วนของการส่งเสริมการใช้ห้องสมุด ทางสำนักหอสมุด และห้องสมุดคณะต่างๆ 
          ได้ดำเนินการศึกษาผู้ใช้และประเมินการใช้บริการห้องสมุดเป็นประจำทุกปี เพื่อนำผลการประเมิน
          มาพัฒนาทรัพยากรสารนิเทศ และบริการของห้องสมุด โดยทางสำนักหอสมุด ได้จัดทำโครงการ
          เกี่ยวกับการศึกษาผู้ใช้โดยเจาะลึกเฉพาะกลุ่มบุคคลหรือโฟกัส กรุ๊ป เพื่อทราบความต้องการ
          ของผู้ใช้แต่ละประเภท และจะได้นำผลการศึกษา ไปจัดหาทรัพยากรสารนิเทศ และจัดบริการ
          ให้ตอบสนองต่อตามความต้องการของผู้ใช้ให้มากยิ่งขึ้น 

          สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังได้จัดกิจกรรม การส่งเสริมการใช้สารสนเทศ
          และบริการของห้องสมุด
ได้แก่ กิจกรรมเรียนรู้การใช้สารสนเทศ (
Know It All, Find It Fast) 
          สำหรับนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี ระดับบัณฑิตศึกษา คณาจารย์ นักวิจัย รวมถึงบุคลากร
          ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเป็นการส่งเสริมการใช้สารสนเทศที่ห้องสมุดได้จัดหามาให้บริการ 
          เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ในส่วนของกิจกรรมดังกล่าว จะประกอบไปด้วย
          
     การแนะนำวิธีการสืบค้นจากฐานข้อมูลห้องสมุด เพื่อค้นหาสิ่งพิมพ์ที่มีให้บริการในห้องสมุด
                 กว่า 20 แห่ง ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
          
     การค้นหาบทความจากวารสาร หนังสือพิมพ์ การตรวจสอบการยืม คืน ด้วยตนเองผ่านอินเทอร์เน็ต
          
     การเรียนรู้เครื่องมือ ทักษะ และเทคนิคการแสวงหาสารสนเทศแบบครบวงจร 
                 จากแหล่งข้อมูลหลากหลายประเภท เช่น
CMU – Reference Databases, e – Books, e – Journals
           
     การเรียนรู้เครื่องมือและเทคนิคการแสวงหาสารสนเทศเพื่อการเขียนวิทยานิพนธ์ หรือการทำวิจัย 
                 จากแหล่งข้อมูลที่ทันสมัย เช่น ฐานข้อมูล
CMU e –Theses, Digital Collection, 
                  Dissertation Full text และฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ไทย เป็นต้น

          สำนักสมุดมีความตระหนักอยู่เสมอว่า การนำแนวความคิดทางการตลาดมาประยุกต์ใช้
          กับงานบริการสารสนเทศนั้น จะทำให้เห็นแนวทางในการจัดบริการสารสนเทศ 
          ที่ตอบสนองความต้องการที่ผู้ใช้คาดหวังได้อย่างรวดเร็ว ครบถ้วน สมบูรณ์ ทันสมัย 
          และก่อให้เกิดความสำเร็จในงานบริการ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจและทำให้ผู้ใช้ได้ตระหนัก
          ถึงคุณค่าที่ได้รับจากการใช้บริการ และพึงพอใจที่จะมาใช้บริการของห้องสมุดอีกในภายหลัง 
          ซึ่งจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพของการบริการสารสนเทศของห้องสมุดอย่างแท้จริง

 

          เอกสารอ้างอิง

 

          ธีรกิติ นวรัตน์ ณ อยุธยา.  2545.  การตลาดสำหรับบริการ: แนวคิดและกลยุทธ์ = Services

          marketing: concepts and strategies.  เชียงใหม่: ภาควิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ

          มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

          วิทยา จารุโสภณ.  2550.  Library Marketing: เอกสารประกอบการสัมมนา มิติใหม่ของงาน

          ห้องสมุด: การตลาด&ความรับผิดชอบต่อสังคม.  กรุงเทพฯ: ศูนย์ประสานงานสารนิเทศ

          สาขาเศรษฐศาสตร์.

          สุวรรณ อภัยวงศ์.  2542.  การตลาดในงานบริการสารสนเทศ.  มหาสารคาม: คณะมนุษยศาสตร์

          และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏมหาสารคาม.

          “การศึกษา.”  2550.  มติชนสุดสัปดาห์  27, 1399 (8 – 14 มิ.ย.): 18.

Read Full Post »

          เมื่อคุณเจอเรื่องแย่ๆ เข้ามา จะโดยคาดคิดหรือไม่คาดคิดก็แล้วแต่  
        และแม้มันจะแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ทำยังไงจะที่จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น
        เราขอแนะนำคุณว่า ให้คุณเข้าไปในเว็บบอร์ดสังคมออนไลน์คุณภาพแห่งหนึ่ง
        แล้วสืบค้น ชื่อของใครคนใดคนหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงหรือกำลังเป็นข่าวในสังคม

        ไม่ว่าจะเป็นทาทา กบ สุวนันท์ ป้าเบิร์ด หมูแฮม แชมป์ สีสันบันเทิง สุรยุทธ
        หรือไม่ว่าจะเป็น "คุณปลื้ม" ตี๋เรน และคนดังที่มีแฟนคลับ ฯลฯ เมื่อคุณใช้คำค้น
        ตามที่เจ๊บรรณฯ แนะนำแล้ว คุณจะพบว่า ในโลกนี้ มีคนที่เจอเรื่องบัดซบๆ มากกว่าคุณ
        อีกตั้งมากมาย โดยเฉพาะผู้มีชื่อเสียงและอยู่ในที่สาธารณะแบบเขาเหล่านั้น

        พวกเขาถูกคนอื่นกล่าวว่าซะไม่มีดี เพียงเพราะสื่อเสนอเพียงด้านใดด้านหนึ่งของเขา
        แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ที่จะมีคนตัดสินใครแค่เพียงเพราะภาพปาปารัชชี่แอบถ่าย
        กระหายเงินจากพวกหนังสือ gossip ที่ตั้งราคาไว้ หรือพวกปากไวเขาทำอะไรก็รอติมากว่าชม
        มันคงมีให้เห็นกันทุกชนชั้น ทุกสังคม พอได้อ่านแล้วรู้สึกว่า ชีวิตฉันไม่ได้เจออะไรแย่ๆ อยู่คนเดียว

Read Full Post »


           ความสวยงามใช่ว่าจะดีเสมอไป 
      แต่ความดีนี่สิ…สวยงามเสมอ


     That which is beautiful
      is not always good;
      but that which is good 
      is always beautiful

Read Full Post »

ข่าวเช้าสมานฉันท์

         

          ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากจะดูข่าวตอนเช้า ก็จะเปิดช่องสามไว้เป็นหลัก
          ดูสรยุทธเถียงกับคุณปลื้ม แต่พอไม่มีคุณปลื้มให้ดูตอนเช้าที่ช่องสาม
          ก็ไม่ได้ยืดติดว่าต้องดูข่าวช่องไหนเป็นหลัก ก็อย่างที่เคยบอก
          ดูข่าวดูช่องไหนก็ดูได้ แต่ดูคนที่มาอ่านข่าวนี่สิ ต้องเลือกให้ถูกใจอิฉัน

          ตอนนี้มีคนมาอ่านข่าวตอนเช้าๆ ให้ดูอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์
          แถมมาเร็วกว่าเดิม 15 นาที และจบก่อนเวลาที่ฉันจะออกจากบ้าน
          หลังจากที่รสนิยมการดูคนอ่านข่าวของที่บ้านจะไม่สมานฉันท์กันมานาน
          เพราะคุณสามี ชอบที่จะดูคุณพี่รุ่งนภา ป้าคนสวยอ่านข่าวตอนเช้า

          แต่อิฉัน เลือกที่จะดูพระรองเกาหลี เถียงกับตี๋ฮ่องกงอยู่อีกช่อง
          แต่ตอนนี้ไม่มีเกิดปัญหานั้นแล้ว ต้องขอบคุณผู้บริหาร Modernnine
          ที่เข้าใจสรรหาสิ่งที่ตรงใจผู้บริโภค (อย่างน้อยก็ที่บ้านฉัน)
          ถึงทีวีที่บ้านจะมีสามสี่เครื่อง แต่ทีวีในห้องกินข้าวและห้องแต่งตัว

          มันมีอยู่เครื่องเดียว เมื่อก่อนต้องชิงไหวชิงพริบกันกดเปลี่ยนช่อง
          แถมมันไม่มีรีโมทอีกด้วย ต้องใช้ความอุตสาหะเดินไปเปลี่ยนเอง
          ช่วงนี้ก็ได้ดูข่าวกีฬาก่อนมาทำงานด้วย เพราะดราม่า tour de france
          กำลังขับเคี่ยวกับอย่างเมามัน ยังกะหนังชีวิตเรื่องยาว ลุ้นกันทุกวัน

          วกมาที่เรื่องข่าวเช้าอีกที วันนี้ออกจากบ้านช้ากว่าเจ็ดโมงสิบห้า
          เจอกับคุณสุทธิชัย และสาวจอมขวัญ โอ้นะ พลาดไปได้ไง
          เพิ่งรู้ว่ามี "ชีพจรโลก" อยู่ต่อจากข่าวเช้า Modernnine 
          ไม่รู้ว่ามีมานานหรือยัง หรือว่าเพิ่งมี ทำเอาฉันและสามีตาลุก!!

          นี่เราตกข่าวกันขนาดนี้เลยหรือนี่ ไม่รู้ว่ามีข่าวดีๆ ให้ดูก่อนออกจากบ้าน
          สามีบอกว่า เป็นไงหละ มัวแต่ไปดูสรยุทธเถียงกับคุณปลื้ม 
          ช่องอื่นๆ มีอะไรให้ดูอีกเยอะไม่ยอมดู (ได้โอกาสซ้ำเติมเลย)
          ขนาดลูกยังพูดเลยว่า เพราะแม่มัวแต่ไปดูข่าวชาวบ้านๆ ตอนเช้าไง

Read Full Post »

อันดับหนังในดวงใจ

        
           

          ปกติการดูหนังไม่ใช่ส่วนสำคัญในชีวิตของฉันนัก เพราะฉันเองไม่ได้ดูหนังในโรงหนัง

          มาเกือบห้าหกปีแล้ว ตั้งแต่ฉันรู้ว่าตัวเองท้องนั่นแหละ ไม่ได้มีข้อห้ามข้อไหนบอกว่า

          ห้ามคนท้องเข้าโรงหนัง แต่ฉันปฏิบัติของฉันเอง อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยชอบดูหนัง

          ในโรงหนังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ดูจากดีวีดี หรือไม่ก็โหลดมาดูซะมากว่า

 

          สมัยเรียนมหาลัย มุขที่หนุ่มๆ จะจีบสาว หรือรุ่นพี่จะใช้จีบรุ่นน้อง คือการชวนไปดูหนัง

          มุขนี้ก็มาใช้กับฉันไม่ได้ คนที่ฉันปิ๊ง เค้าก็ไม่เคยมาชวนฉันไปดูหนังซักที

          ฉันเองก็ไม่กล้าชวนเค้าหรอก เขาชวนฉันไปแต่ห้องสมุด ห้องสมุด และห้องสมุด

          อยากจะบอกเขาเหมือนกันว่า เวลาฉันเรียนฉันก็ต้องเรียนที่ชั้นสองของห้องสมุด

 

          ตอนเวลาวันว่างหรือวันหยุด ยังจะมาชวนฉันไปห้องสมุดอีก แต่ฉันก็ไม่เคยบอกเค้าซักที

          รุ่นพี่ก็มีมาชวนไปดูหนังบ้าง มันอาจจะเป็นมุขคลาสสิคของหนุ่มสาวหรืออะไรทำนองนั้น

          เวลาจีบกันใหม่ๆ ก็ชวนไปดูหนังกินข้าว แต่มันก็ใช้ไม่ได้กับรสนิยมของฉันอีกตามเคย

          จำได้ว่าตอนเรียนมหาลัย ไปดูหนังในโรงหนังอยู่ไม่กี่เรื่อง และเรื่องที่จำได้คือไททานิค

 

          สมัยนั้นใครไม่ได้ดูไททานิค คงเชยเอามากๆ เลยทีเดียว แล้วเพลง My heart will go on
          ก็ดังมากเช่นเดียวกัน ไปไหนๆ ก็ได้ยินแต่เพลงนี้ วกกลับมาถึงเรื่องหนังที่ฉันจะเขียนถึง

          เพราะฉันไปอ่านเจอ 10 อันดับหนังในดวงใจของ คุณปลื้ม ซึ่งนิตยสาร Cool สัมภาษณ์ไว้

          จริงๆ แล้ว เล่มนี้วางแผงมานานแล้ว แต่ก็ไม่ได้อุดหนุนซักที วันนี้เลยเสียเงิน 90 บาท ซื้อมา

 

          เปิดหาเพื่อจะลุ้นว่า มีเรื่องไหนที่ตรงกับใจฉันหรือเปล่า ปรากฎว่าแห้ว!! สถานเดียว

          สิบเรื่อง มีอยู่เรื่องสองเรื่องที่ฉันเคยดูและรู้จัก หุหุ ดูรสนิยมเอาเหอะ จะได้เห็นกันชัดๆ
          ว่าตี๋ไฮโซกับเจ๊บรรณฯ โลโซหนะ วิถีชีวิตและรสนิยมแตกต่างกันยังกะฟ้ากับเหว
          แถมคุณปลื้มนะ ชอบดูหนังในโรงหนัง และฉันเนี่ย ชอบดูดีวีดีอยู่ที่บ้านมากกว่า

 

          เข้าเรื่องซะที อารัมภบทมายาวนานกว่าเรื่องที่จะเขียนอีก อันดับหนังในดวงใจของฉัน

          ขอไม่เรียงแบบหนึ่งสองสามนะ เพราะไม่ได้จัดอันดับไว้ในใจ แต่เป็นหนังที่ประทับใจมากกว่า

          เรื่องที่หนึ่งคือ น้ำพุ หนังที่กำกับโดย ยุทธนา มุกดาสนิท น้ำพุ เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิต
          ที่ฉันได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองให้ไปดูได้ในโรงหนัง จำได้ว่าฉันน่าจะอยู่แค่ชั้นประถมต้นๆ

 

          คุณครูที่โรงเรียนต้องพาเด็กๆ ไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด

          และปัญหาครอบครัว ตอนนั้นฉันจำรายละเอียดของหนังไม่ได้ เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับโรงหนัง

          และจำได้อีกว่า ฉันต้องใส่ชุดนักเรียนไปดูหนังด้วยนะ เพราะคุณครูพาไปพร้อมกับคนอื่นๆ

          ฉันเลยต้องขอพ่อให้พาฉันไปดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งในวันหยุดต่อมา เพื่อดูเนื้อหามันอีกรอบ

 

          เรื่องที่สองคือ กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้ หนังวัยรุ่นสมัยพี่มอสยังเอ๊าะ มีโมทย์ เต๋า จอห์น

          พี่แท่ง และกลุ่มหินกลิ้งอีกหลายชีวิต เป็นหนังที่ฉันได้รับอนุญาตให้ดูได้พร้อมเพื่อนๆ

          ที่เรียนพิเศษด้วยกัน อย่างเช่น มนันยาเพื่อนรัก สิริมาดา ลักษมี สุรกิจ เป็นต้น ตอนนั้น

          ฉันก็เป็นวัยรุ่นแล้ว และด้วยความที่ชอบพี่มอสเป็นทุนเดิม เลยประทับใจเรื่องนี้เอามากๆ

 

          เรื่องที่สามคือ ปีหนึ่งเพื่อนกัน และวันอัศจรรย์ของผม หนังของพี่มอส พี่แท่ง อีกเช่นกัน

          เป็นเรื่องของความผูกพันของพี่ชายกับน้องชาย หลังจากที่ทั้งสองหนุ่มแจ้งเกิดมาจากกลิ้งไว้ก่อนฯ

          ก็มีหนังเรื่องนี้ตามมาไม่ห่าง ตามกระแสที่ได้รับความนิยม ฉันก็ได้ไปดูในโรงหนังกับเพื่อนๆ

          แถมตอนนั้นฉันแอบปลื้มโอ๋คุง รุ่นน้อง ดูไปก็หันไปมองน้องเค้าไป (แต่เขาช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย)

          สามเรื่องที่ผ่านมา เป็นความทรงจำสมัยวัยเด็กและวัยรุ่นของฉัน เรื่องต่อมาเป็นเรื่องตอนโตแล้ว

          แล้วก็ดูไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว คือเรื่อง “Con Air” ลุ้นระทึกมากๆ ในความรู้สึกฉัน
          เพราะปกติฉันจะไม่ดูหนังพวกรบราฆ่าฟัน หรือหนังผีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่มาลุ้นมากกับเรื่องนี้
          แล้ว
Nicolas Cage
ก็แสดงเรื่องนี้ได้ดีเยี่ยมมากๆ และมีเพลงที่ซึ้งมากอีกด้วยในหนังเรื่องนี้

          สำหรับเรื่องที่มีเนื้อหาลุ้นระทึก อีกเรื่องหนึ่งที่ฉันชอบก็คือ “Speed” ที่ส่งผลให้คีนู รีฟ

          โด่งดังมาก แต่ฉันก็ชอบแค่ภาคแรกภาคเดียว ส่วนภาคอื่นๆ ก็งั้นๆ อาจจะเป็นเพราะ

          ความแปลกใหม่ในภาคแรก และคีนู ผู้หล่อเหล่าเข้าตาทำให้องค์ประกอบโดยรวม

          กลายเป็นหนังที่น่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่งของฉัน เรื่องต่อมาที่ชอบคือ “Armageddon”

 

          หนังฮีโร่โดย Bruce Willis ซึ่งมีทั้งความเสียสละ ความรักความผูกพัน มีครบทุกรสชาด

          แถมเพลงในหนังก็เพราะเอามากๆ และที่จะลืมมิได้คือพระเอกในดวงใจของฉัน

          พ่อ ฮิวจ์ แกรนท์ ผู้รับบทบาทเป็นเจ้าของร้านขายหนังสือท่องเที่ยวใน “Notting Hill”

          ฉันดูเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนจำได้เกือบทุกประโยคที่ตัวแสดงสนทนากันแล้ว

 

          และก็ชอบมากๆ กับพระเอกที่ใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าหรือสีชมพูในหนังเรื่องนี้

          แถมมีเพลงประกอบเพราะๆ อย่าง When you say noting at all ด้วย เมื่อพูดถึง

          ฮิวจ์ แกรนท์ มีอีกเรื่องที่ฉันชอบ และเป็นหนังที่น่าประทับใจคือ “Love Actually”

          หนังรักของคนหลากหลาย ที่ต่างเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน ถือเป็นหนังรักใจดวงใจ

 

          ของฉันเลยก็ว่าได้ และก็ตามคาด ฉันก็ดูเรื่องนี้ซ้ำๆ อยู่หลายๆ รอบ พอหลังๆ

          ยังอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าคุณปลื้ม (ขอวกเข้ามาหน่อยนะ) อายุ 45 เท่าๆ กับฮิวจ์ แกรนท์

          แล้วเป็นนายกรัฐมนตรีหรือเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจ และที่สำคัญคือเป็นโสด!!!

          อยากรู้เหมือนกันว่าคุณปลื้มจะปิ๊งสาวอวบ อย่างน้องนาตาลีในเรื่องหรือเปล่า

 

          แต่ถ้านายกรัฐมนตรีอังกฤษตัวจริงหล่อแบบ ฮิวจ์ แกรนท์ คิดว่าคงเป็นที่กล่าวขวัญ

          กันไปทั่วโลก พูดถึงความหล่อของพระเอก มีเรื่องจะเล่าแทรกนิดนึง

          อาจารย์ธิดา อาจารย์ที่เคยสอนฉันตอนมหาลัย เธอชอบ Richard Gere เอามากๆ
          และพยามยัดเยียดให้ลูกศิษย์อย่างฉันชอบด้วย แต่ตอนฉันเป็นวัยรุ่น ตา
Gere

 

          ก็จะเป็นปู่อยู่แล้ว แม้ยอมรับว่าแก่แล้วยังไงก็หล่ออยู่ แต่ถ้าจะให้ฉันชอบด้วย

          ฉันก็รับตัวเองไม่ค่อยได้ แถมยังอดหมั่นไส้ในบางครั้ง ที่ได้ยินอาจารย์ธิดา

          พูดถึงพ่อเทพบุตรสุดหล่อคนนี้บ่อยๆ เพิ่งมาตระหนักเอาตอนอายุสามสิบนี่แหละ

          ว่าของแบบนี้ มันเป็นรสนิยมส่วนตัวจริงๆ ถ้าเราจะปลื้มใครชอบใคร มันก็เป็นเรื่องของเรา

 

          และจะบังคับให้คนอื่นชอบหรือไม่ชอบกับเรานั้น มันก็เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมจริงๆ

          สำหรับหนังเรื่องอื่นๆ ที่ฉันชอบก็มีหนังการ์ตูนหมีพูห์ อันนี้คงได้รับอิทธิพลมาจากลูกนั่นเอง

          ลูกฉันมีหนังเกี่ยวกับหมีพูห์อยู่ในความครอบครอง ประมาณหกเจ็ดสิบเรื่อง

          และเป็นการ์ตูนที่มีหลากหลายภาษามากๆ ทั้งจีน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ

 

          ซึ่ง Walt Disney เขาทำได้ดีมากที่แม้จะฟังภาษาบางภาษาไม่ออก แต่แค่เห็นภาพเคลื่อนไหว

          ของการ์ตูนเหล่านั้น เราก็จะเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อออกมา สำหรับการ์ตูนหมีพูห์ที่ฉันชอบ

          จะมีอยู่สองตอนคือ “The Tigger Movie” ซึ่งมีเพลง “Your Heart Will Lead You Home”

          ที่ลูกชายฉันชอบนั่นเอง ส่วนอีกตอนก็คือ “Piglet BIG Movie” เป็นเรื่องราวของ piglet

 

          กับความผูกพันของผองเพื่อนก๊วนหมีพูห์ ทั้ง Roo Kanga Rabit Eyore Tigger Pooh

          และอีกหลายๆ ตัว ที่ออกตามหา piglet ที่หลงทาง ฉันและลูกคงดูทั้งสองเรื่อง
          มาเกินยี่สิบรอบแล้ว และก็ตามคาดที่ไม่ว่ามันจะมาเวอร์ชั่น
ภาษาอะไร
          เราก็สามารถดูการ์ตูนเรื่องนี้รู้เรื่อง และอินกับภาพและเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้

 

          ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนครบสิบเรื่องได้ วันหลังจะลองเขียนซีรีเกาหลีที่ประทับใจดู

          คาดว่าน่าจะมีถึงสิบเรื่องเช่นกัน สรุปแล้วหนังส่วนใหญ่ที่ชอบ ถ้าไม่เพราะพระเอก

          ก็เพราะเนื้อหาของหนัง แต่โดยรวมๆ แล้ว คนที่ไม่ใช่เซียนดูหนังอย่างฉัน

          ก็ไม่มีมาตรฐานอันได้ไปวิจารณ์การทำหนังของผู้กำกับได้ นอกจากใช้ความชอบส่วนตัวจริงๆ  

Read Full Post »

 
          เป็นคนอ่านข่าวภาคภาษาอังกฤษก็ดีอยู่แล้ว

        เป็นคนวิเคราะห์ข่าวเศรษฐกิจก่อนอาหารกลางวันก็น่าฟังอยู่

        เป็นคนวิเคราะห์หุ้นก็น่าสนใจ มีคนได้ประโยชน์มากมาย

        เป็นนายแบบโฆษณาผงซักฟอกตอนยังไม่ดัง ก็แปลกตาดี

        เป็นนายแบบโฆษณารถ ที่ตอนนี้คนพูดถึงกันทั้งบ้านทั้งเมือง

        เป็นพิธีกรเกมโชว์ก็น่ารักใช้ได้ ขวัญใจแม่ยกและเด็กๆ

        เป็นนักร้องก็เป็นได้ "อยากบอกต้อง(อย่า)ออกเทป" หุหุ

        เป็นผู้ประกาศข่าวตอนเช้าก็ยังมีคนตื่นมาดูอยู่มากมาย

        เป็นนายแบบก็เป็นมาแล้ว มีงานเข้ามาแทบไม่มีเวลานอน

        เป็นพิธีกร talk show ดูแล้วก็พอ "เป็นปลื้ม" อยู่

        จะเป็นตำรวจดีเอสไอ ไม่นานคงได้เห็นบนแผ่นฟิล์ม

        จะเป็นนักการเมือง อีกไม่นานก็คงได้รู้ว่าอยู่พรรคไหน

        จะเป็นอะไรอีกดีหละนี่ ยังไงก็ "เป็นโสด" ไปนานๆ นะ อิอิ
       

         

Read Full Post »

         
         
          โปรดอย่าได้แปลกใจกับภาพนี้ มันก็คือถุงมือที่ใส่ปั่นจักรยานนั่นแหละ 
        แต่คนแถวบ้านฉันเรียกมันว่า "ถุงมือของโปรแกรมเมอร์" เพราะว่าคุณโปรแกรมเมอร์ที่บ้าน
        อยากได้เป็นนักหนา ของเก่ามีไม่ใช้แล้ว มันเก่าแล้ว จะซื้อใหม่ๆ รบเร้าแข่งกับลูกทุกวี่วัน
        โดยสรรหาคุณสมบัติมาชี้แจงเพียบ เพื่อขอการอนุมัติจากคุณภรรยา 
        ถ้าไม่ได้ใส่ถุงมือ เวลาปั่นจักรยานจะอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "โปรแกรมเมอร์"
        มือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าโปรแกรมเมอร์ก็ต้องใช้มือทำมาหากินนี่เน๊อะ อิอิ

Read Full Post »

          เย็นวันจันทร์มีเวลาอยู่ประมาณชั่วโมงครึ่งก่อนสามีจะมารับกลับบ้าน
        เลยตั้งใจว่าจะไปตัดผม แต่ก็เสี่ยงเอาการหากเจอลูกค้าเยอะๆ ก็คิดว่าจะไม่รอ
        เพราะตั้งใจว่าจะให้พี่แจง พี่เจ้าของร้านเป็นคนตัดให้เท่านั้น โชคดีที่ไปถึงแล้ว ไม่ต้องนั่งรอ 
        เพราะพี่เค้าว่างพอดี ส่วนใหญ่นักศึกษาจะมาดัดผมกันตามสมัยนิยม และให้ช่างคนอื่นทำให้

        คุณน้องสาวโทรมาบอกว่า ให้พาป้าไปเยี่ยมยายที่โรงพยาบาลด้วย เดี๋ยวจะพาป้ามาส่งให้
        ที่จุดนัดพบคณะเกษตร ขนาดมีเวลาอยู่น้อยนิดเพื่อจะหาเวลาตัดผม ยังมีภาระกิจอื่นที่ต้องทำอีก
        เราถามว่าทำไมเธอไม่พาป้าไปเอง ไหนๆ ก็มาส่งแล้ว เธอบอกว่าติดภาระกิจพาเพื่อนฝรั่งไปกินข้าว
        ถ้าจะต้องแลกภาระกิจกัน ระหว่างให้ฉันพาฝรั่งไปกินข้าว กับพาป้าไปเยี่ยมยายที่โรงพยาบาล

        ฉันขอเลือกที่จะเจอป้ามากกว่า เพราะอย่างน้อยก็คงคุยกันรู้เรื่อง มากกว่าไปกินข้าวกับเพื่อนฝรั่งของเธอ
        ตัดผมยังไม่ทันเสร็จป้ามารอหน้าร้านแล้ว พี่แจงถามว่า ไม่ลองดัดผมแบบน้องๆ นักศึกษาเหรอ
        เราบอกว่า ก็อยากทำอยู่ค่ะพี่ มันใช้เวลานานไหม พี่เค้าบอกว่า ประมาณสามชั่วโมง 
        ได้แต่ส่ายหน้า บอกว่าหนูไม่มีเวลาขนาดนั้นค่ะพี่ แต่หลบลูกและสามีมาได้ชั่วโมงนึงนี่ก็เก่งแล้ว

        คุณสามีก็เช่นกัน วันเสาร์คิดจะไปตัดผม แต่ร้านปิด และก็ไม่ยอมไปร้านอื่น ทำให้ไม่ได้ตัดผมซักที
        ตอนนี้ผมหงอกเต็มหัวแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าคนอายุ 33 จะมีผมหงอกเกินเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ไปซะแล้ว
        สงสัยทำงานหนักเกิน ที่จริงก็เป็นแบบพ่อเค้านั่นแหละ เพราะว่าผมหงอกเร็วมาก คุณสามีชอบย้อนว่า
        แค่หัวหงอกอะย้อมผมได้ หัวไม่ล้านก็ดีถมไปแล้ว และวันนี้มีลูกค้าติดต่อเข้ามาอีกราย
 
        จะให้ทำเว็บและฐานข้อมูล คุณสามีก็ลังเลว่าจะรับไหม เงินก็ได้อยากได้ แต่จะเอาเวลาที่ไหนทำ
        สรุปก็ยังลังเล ทั้งผู้จ้างและผู้ทำ เห็นบ่นๆ ว่า อย่ารับงานมาเยอะนะ เวลาตัดผมยังไม่มีเลย
        แต่ก็ยังอดเสียดายเงินไม่ได้ ไม่มีเวลาตัดผม แต่ไม่เหมารวมว่าไม่มีเวลาใช้เงิน เพราะไม่รู้เงินที่หามา
        เอาเวลาที่ไหนไปแอบใช้กันเนี่ย เพราะหามาเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ รู้สึกจะไม่ค่อยจะพอใช้กันเลยเน๊อะ : P

Read Full Post »

Older Posts »