Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for ธันวาคม, 2006

22.22

22.22
 
เห็นเวลามันสวยดี เลยรีบโพสไว้

กำลังฟังเพลงพี่เสือ เพราะดีนะ ฟังด้วยกันสิเธอ

…ร้องไห้กับฉันระบายออกจากหัวใจ…
  แล้วเริ่มใหม่ยังไม่สาย

…ร้องไห้กับฉันระบายออกจากหัวใจ…
 ผ่านไปแล้วลืมมันไป
อีกซักเพลงไหม เพลงนี้ปลอบใจได้ดีมาก

"เท่าที่มี"

ฉันบอกกับเธอ วันนั้นว่าฉันรักเธอ
แม้ผ่านมานาน แต่มันยังจริงเสมอ
อาจมีให้เธอไม่บ่อย แต่รักไม่น้อยลงเลย
เพราะว่าเธอคนที่รักฉันจริง ที่เกิดมาเพื่อฉัน

เพราะเธอเท่านั้น อดทนเมื่อฉันลำบาก
แม้บ่นซักคำ จากปากไม่มีจากเธอ
อดทนแม้เราไม่ค่อยมี ชีวิตที่ดีซักเท่าไหร่
ไม่เป็นไรหากหัวใจเรายังสู้

จะทำความฝันในใจให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
สัญญาว่าฉันจะดีให้เหมือนเธอดีกับฉัน
อาจมีแค่สองมือ แต่จะยึดถือความรักมั่น
แค่มีเธอเคียงข้างกัน ฉันนั้นจะคว้าดาวมาให้เธอ

กายเท่าที่มี กายนี้ฉันมอบให้เธอ
ใจเท่าที่มี ใจนี้จะมีแต่เธอ
เฝ้าคอยท้องฟ้าหลังฝนซา
เมฆร้ายพ้นหลังคาบ้านเราไป
อดทนไว้ ต้องสักวันเป็นวันของเรา

จะทำความฝันในใจให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
สัญญาว่าฉันจะดีให้เหมือนเธอดีกับฉัน
อาจมีแค่สองมือ แต่จะยึดถือความรักมั่น
แค่มีเธอเคียงข้างกัน ฉันนั้นจะคว้าดาวมาให้เธอ

จะทำความฝันในใจให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
สัญญาว่าฉันจะดีให้เหมือนเธอดีกับฉัน
อาจมีแค่สองมือ แต่จะยึดถือความรักมั่น
แค่มีเธอเคียงข้างกัน ฉันนั้นจะคว้าดาวมาให้เธอ

นี่แหละ เพลงนี้เรียกน้ำตาได้ทุกทีเลยเธอ

Read Full Post »

สักวันต้องได้ดี

สักวันต้องได้ดี

คนบางคนชีวิตช่างยากช่างเย็นเหลือเกิน
เดินกันไปไม่เคยจะได้ดี
แต่ตัวเราเองยังหวังด้วยพลังที่มี
จึงทำความดีไม่เคยจะท้อใจ

อย่างน้อยสิ่งที่เรานั้นทำลงไป
ไม่คิดอะไรก็แค่ภูมิใจที่เป็นคนดี
อย่างน้อยก็บอกตัวเองหนทางยังมี
แม้ว่าวันนี้มันช่างโหดร้าย
ก็ยังคงทำดีไม่เคยหวั่น รู้ว่าสักวัน … ต้องได้ดี

คนบางคนบางครั้งต้องทุกข์ต้องทนก็มี
แต่คนดีดีไม่มีวันแพ้ภัย

กาลเวลาเท่านั้นที่ช่วยให้เราเข้าใจ
ลงเอยยังไงก็คงจะรู้เอง

เพลงโดย เรวัติ พุทธินันท์

จะสิ้นปีแล้ว หนี้ไม่เพิ่ม แต่ก็เหมือนจะไม่ลดลงเลย

จะต้องเรียนต่อแล้ว แม้ค่าเทอมครั้งนี้ พ่อบอกว่า จะช่วยออกให้

แต่ลึกๆ ก็รู้สึกแย่ๆ เหมือนกันนะ พึ่งพาพ่อแม่(อีกแล้ว)

พ่อเอกบอกว่า ปีหน้าค่อยเรียนได้ไหม รอให้หนี้ลดลงอีกหน่อย

รู้สึกเศร้าจัง ไม่เคยรู้สึกเศร้าใจกับการเป็นหนี้เท่านี้มาก่อนเลย

อยากรู้จังแฮะ ว่าคนที่เค้าเป็นหนี้เยอะๆ แต่ยังล่องลอยใช้ชีวิตไปวันๆ

ตามร้านกาแฟหรูๆ เนี่ย ลึกๆ แล้ว เค้ารู้สึกยังไง

Read Full Post »

          คุณคนไกล
          อย่าเพิ่งทำหน้าแปลกใจที่มีโปสการ์ดส่งถึงคุณเลย
          ตอนนี้ผมอยู่ไกลอีกฟากฟ้า และอยู่ห่างอีกโค้งขอบของเส้นรุ้ง
          ที่เมืองนี้..ก็หนาวเหน็บเหมือนเช่นที่บ้านคุณ…ผมจำที่อยู่ร้านของคุณได้
          ตั้งแต่วันแรกที่ผมเดินออกมาจากร้านนั้น เมื่อมันถึงเวลาปิดให้บริการ
          และความทรงจำอันนั้น ทำให้ผมสามารถส่งโปสการ์ดมาบอกเล่า
          ความรู้สึก ณ เวลานี้ ถึงคุณได้ แม้ไม่ได้เห็นหน้าตาและรอยยิ้มของคุณ

          คุณคนไกล
          ระหว่างทางที่ผมนั่งอยู่ในเครื่องบินโดยสารลำใหญ่
          ผมเห็นพระเอกในหนัง เขาถามคนที่เขาแอบชอบว่า…
          "ให้ผมชอบคุณได้ไหม?" ผมจำภาพนั้นได้ติดตาและข้อความก็ติดหัวใจ
          เมื่อผมทำธุระเรื่องการงานเสร็จ จึงไม่ลืมที่จะเขียนคำบอกเล่านั้น
          ส่งมาถึงคุณ 

          คุณคนไกล
          หากคุณอายหรือเขินต่อเด็กๆ ในร้าน กับการที่คุณได้รับโปสการ์ด
          ที่เปิดเผยความรู้สึกนี้ อ่านแล้วโปรดเก็บไว้ในหนังสือที่คุณชอบอ่าน
          หรือหากรังเกียจคำถามที่ผมถามไป ก็โปรดทิ้งมันไปเหมือนแค่กระดาษแผ่นเดียว
          ที่ไม่ได้มีค่ามากมายอะไร

          คุณคนไกล
          ผมพร้อมที่จะรอคำตอบของคุณเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยาวนานแค่ไหน
          และเมื่อผมกลับไปเยี่ยมคุณ ณ เมืองแห่งม่านหมอก ผมจะกลับไปถามคุณอีกครั้ง
          "ให้ผมชอบคุณได้ไหม?"

Read Full Post »

         
               

          คุณคนไกล
                  
อากาศทางโน้นคงหนาวมากสินะ คุณสบายดีหรือเปล่า 
          หลายเดือนแล้วนะ ที่เราไม่ได้พบหน้ากัน คุณจำวันนั้นได้ไหม…
          เราพบกันในวันที่สายฝนพรำที่นอกหน้าต่าง
          และผมเองคนพลัดถิ่นก็ไม่มีที่หลบฝนที่ไหน
          นอกจากร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุด ผมจะสารภาพตรงนี้ได้ไหม
          ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปดื่มกาแฟ ผมแค่ชอบกลิ่นของกาแฟ
          แต่ไม่ได้ชอบรสของกาแฟ แม้มันจะหอม หวาน แต่ก็ปนขมอยู่เสมอ
          แต่วันนั้นผมพบรอยยิ้มของผู้หญิงคนหนึ่ง วินาทีแรก
          ผมคิดว่า เธอยิ้มเพราะผมเป็นลูกค้าของเธอ และเธอคงยิ้มกับทุกๆ คน
          ที่เดินเข้ามาในร้าน ซึ่งหลังจากวันนั้น มันก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้
          เธอยิ้มแย้มกับผู้คนที่พานพบ และผมก็แอบมองรอยยิ้มที่จริงใจและเป็นมิตรนั้น อยู่เสมอๆ

          คุณคนไกล
                  
จากปลายฝน ต้นหนาว ที่เราพบกัน คุณยังอยู่สบายดีไหม
          รอยยิ้มของคุณยังอบอุ่นเหมือนเดิมไหม ผมคิดถึงรอยยิ้มนั้น 
          คิดถึงรสขมและหวานของกาแฟ และคิดถึงใครบางคน

          คุณคนไกล 
       
      ผมจะไปหาคุณอีกได้ไหม ผมเคยถามคุณแล้วใช่ไหม
          ว่าคุณมีใครในใจหรือเปล่า คุณไม่ได้ตอบคำถามผม คุณยิ้ม
          ยิ้มเหมือนทุกครั้งที่คุณเจอผม ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ แบบคุณ
          ผมสามารถพบเจอได้ในเมืองอันแสนวุ่นวายนี้ แต่ทำไมผมต้องคิดถึงแต่คุณ
          อาจจะเป็นเพราะรอยยิ้มที่จริงใจตั้งแต่แรกที่ผมพบ ผมไม่กล้าเรียกมันว่ารักแรกพบหรอกนะ
          เพราะจริงๆ แล้ว ผมก็ยังไม่แน่ใจอีกเช่นกันว่าสิ่งที่ผมรู้สึกกับคุณนั้น เป็นความรักหรือไม่

          คุณคนไกล
          อ้อมกอดของคุณจะว่างเปล่าอยู่ไหมนะ สำหรับผมแล้ว ผมอยากเป็นแค่ใครซักคน 
          ที่อยู่ข้างๆ คุณในวันที่อ่อนไหว หรือวันที่คุณต้องการใครอยู่เคียงข้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไป
          ผมไม่กล้าแม้แต่จะถามคุณว่า
อ้อมกอดของคุณเป็นของใคร
อาจเป็นเพราะผมคงกลัว
          กลัวความผิดหวัง ผมกลัวที่จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณอีก ผมก็เป็นผู้ชายอ่อนไหวคนนึงเหมือนกันนะ

          คุณคนไกล
          ใกล้จะจบจดหมายฉบับนี้แล้ว อากาศทางโน้นคงหนาวมากสินะ คุณสบายดีหรือเปล่า 
          หลายเดือนแล้วนะ ที่เราไม่ได้พบหน้ากัน คุณจำวันนั้นได้ไหม…

Read Full Post »

ยามเมื่อลมพัดหวน


           หนาวแล้ว หัวใจรักของใครๆ คงเป็นสีชมพูกันหลายคู่
           งานแต่งงานที่ต้องไปคือวันที่ 30 นี้ น้องแหม่มกับนายต่าย
           วันที่ 1 นายวุฒิกับเจ้าสาว อือมนะ งานแต่งงาน ถ้าเป็นคนโสด
           ก็อยากแต่ง ถ้าเป็นคนแต่งแล้ว ก็อยากแต่งอีก (เพราะอินกับงานแต่งของคนอื่น)
           สำหรับสาวๆ เพื่อนฉัน อายุอานามจะสามสิบกันแล้ว หัวใจเธอจะมีสีชมพูบ้าง
           ก็คงไม่น่าเกลียดอะไรหรอก (อย่าคิดมากน่า ปูนนี้แล้ว อิอิ)
           อยู่ๆ ชายหนุ่มเพื่อนเก่า จะโทรมาชวนไปดูหนังกินข้าวบ้าง ตามประสาคนโสด
           ก็คงไม่น่าแปลกใจอะไร ดีกว่าไม่มีอะไรทำตอนหน้าหนาวว่างั้นเหอะ ว่าแต่ว่า…
           ที่กรุงเทพฯ มันไม่หนาวนี่หวา แทนที่จะชวนดูหนัง ชวนไปนั่งกินเบียร์
           จะดูเสียภาพพจน์ไปหรือเปล่า เอาน่า ไม่เสียหายและไม่เสียหลายอะไรหรอก
           เชื่อฉันเหอะ เพื่อนๆ รอลุ้นเธออยู่นะ อุตส่าห์กลั้นใจยกสมบัติชายหนุ่มของส่วนรวมให้แล้ว
           ดูแลรักษาดีๆ หละ อย่าทำให้เพื่อนๆ ผิดหวัง อิอิ กิ้วๆ : P

Read Full Post »

ภูมิคุ้มใจ


          แชทกำลังง่วนอยู่กับการวาดรูปอธิบายลักษณะของลำไส้เล็กและใหญ่ 
          การสูบฉีดของหัวใจ ให้เม็ดเลือดแดงหมุนวน (ความหมายคงคล้ายๆ ไหวเวียน)
          ฟังดูเข้ากันได้ดีกับสถานที่ที่เป็นโรงพยาบาล ไม่รู้ไปเกิดแรงบันดาลใจอะไรมา 
          หลังจากตอนอยู่ในรถก็อธิบายเรื่องกะโหลกศรีษะและขากรรไกร ให้พ่อฟังไปรอบนึง
          โดยที่พ่อทำพยักหน้าหงึกๆ ไม่รู้อึ้งกับความ(แสน)รู้ของลูก หรือว่างงกับการอธิบายของแชท

          เด็กชายกฤตนนท์ ชัยมินทร์ เชิญที่ห้องเบอร์ 9 ค่ะ คุณพยาบาลเรียกน้องแชทเป็นลำดับหลังๆ แล้ว
          หลังจากที่มีเด็กร้องไห้จ้าไปสามสี่คน แชทคงงงๆ อยู่ว่าทำไมแค่หยอดวัคซีนถึงต้องร้องไห้
          ยังโชว์พาวได้อยู่หลายนาที เพราะรุ่นๆ เดียวกัน มีแค่สาวชุดชมพูคนเดียว แถมสูงเท่ากันพอดิบพอดี
          100 เซนติเมตร (แอบบ่นว่าย่าโม้ๆ  เพราะย่าบอกว่า ยังสูงไม่ถึงร้อยเซน ตอนวัดความสูงที่บ้าน)

          แม่ถอดเสื้อกันหนาว เตรียมให้คุณพยาบาลจิ้มแขน คุณพยาบาลถามว่า หนาวไหมลูก
          เรียนโรงเรียนอะไร อนุบาลอะไร และแซวว่า ลูกชายหัวทุยสวยเชียว สงสัยตอนเลี้ยงลูก
          แม่ไม่ต้องทำอะไร มัวแต่พะวงกลัวหัวลูกไม่สวยอะสิ (รู้ทันแม่เลยนะนี่) หยอดวัคซีนที่ปากเสร็จ
          แชทยังพูดจ้อยๆ คุณพยาบาลให้นับเลข 1 – 10 แต่แชทก็อยากโชว์ บอกว่า นับได้ถึงร้อยแล้ว

          นับเลยลูก ๆ พยาบาลลุ้นใหญ่ พร้อมปักเข็มเข้าที่แขน โอ๊ย!!เจ็บจังๆๆๆ แชทพูดได้แค่นั้น
          แต่ไม่ร้องไห้ อ่อ สงสัยอายสาวชุดชมพูคนก่อนหน้านี้ เพราะสาวเจ้าก็ไม่ร้องไห้เช่นกัน
          แชทบอกแม่ว่า เป็นเด็กโตแล้ว ไม่ร้องไห้แล้ว อือม ดีจัง ไม่ร้องไห้ก็โล่งใจไปที เข็มต่อไป 
          ไม่ต้องมาฉีดแล้ว เพราะสี่ขวบแล้ว รอฉีดตอนที่เรียน PRC ไปเลย คุณหมอจะไปฉีดที่โรงเรียนให้
          ได้ทั้งภูมิคุ้มกันและภูมิคุ้มใจไปในตัว

Read Full Post »


          ระวังให้ดี ถ้าไม่ทันระวัง เราอาจจะไม่มีสไตล์
          ภาษาโฆษณาเตือนให้เราคำนึงถึง "สไตล์" 
          ตลอดเวลาที่มีหรือไม่มีสติสำนึกรู้ บริโภค/เที่ยว/ทำงาน
          เคลื่อนไหว/ "อย่างมีสไตล์" ใช้ชีวิต "อย่างมีสไตล์"
          ทำอะไรบางอย่าง "ด้วยสไตล์ของคุณเอง"

          ในโฆษณา ตัวตนของผู้บริโภคอยู่ที่"สไตล์"
          แฟชั่นมิใช่อะไรอื่นแต่คือ "สไตล์" การเลือก
          (หรือความสามารถที่จะเลือก) เป็นเรื่องของ "สไตล์"
          การใช้กล้องถ่ายรูปดิจิตอลในโทรศัพท์มือถือ
          หรือการใช้แชมพูสระผมเป็นเรื่องของ "สไตล์"
          การรูดบัตรเครดิตหรือขับรถยนต์ส่วนตัวไม่ว่ายี่ห้อใด
          ก็เป็นเรื่องของ "สไตล์" ในขณะที่การใช้เหรียญและธนบัตร
          ซื้อเสื้อผ้าในตลาดนัด หรือถีบสามล้อขับรถสองแถว
          ไม่ใช่เรื่องของ "สไตล์"

          เวลาขึ้นรถเมล์หรือลงเรือข้ามฟาก ข้าพเจ้าไม่รู้สึกถึง
          ความมี "สไตล์" เลยสักกระผีก แต่เวลานานๆ ทีใช้รถไฟฟ้า
          ข้าพเจ้าค่อนข้างรู้สึกว่าตัวเองมี "สไตล์" พอสมควร
          คล้ายๆ กับผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่ข้าพเจ้าชำเลืองแล้ว
          คิดว่าต้องรู้สึกอย่างนี้เหมือนกัน เช่นกันเวลาหิ้วถุงก๊อบแก๊บ
          หรือตระกร้าหวายกับเวลาสะพายกระเป๋าโน๊ตบุ๊กคอมพิวเตอร์
          ก็ให้อารมณ์ต่างกับลิบ ถึงแม้ความจริงแล้ว ข้าพเจ้าจะรู้สึกมีเสรีภาพ
          และศักดิ์ศรีที่สุดเวลามือเปล่า

          ข้อความคัดลอกจาก คุยความคิด โดยมุกหอม วงษ์เทศ
          มติชนวันอาทิตย์ 17 ธันวาคม 2549 หน้า 20

          ——————————————

          คนรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้จากคนรุ่นเก่าและต้องนำมาผสมผสานกัน
          อย่าไปเชื่อว่าสิ่งที่คนรุ่นเก่านั้นผิดและเชื่อว่าสิ่งที่คนรุ่นใหม่ทำนั้นถูก
          นอกจากเราจะต้องเรียนรู้จากคนรุ่นเก่าแล้ว คนรุ่นใหม่ต้องหัดเป็นคนติดดินด้วย
          ต้องถ่อมตนและไม่ประเมินตัวเองผิด อย่าหลงไปกับสถานการณ์
          เพราะถ้าทะเยอทะยานเกินไปจะพลาดได้

          คนรุ่นใหม่ต้องเข้าใจสถานการณ์ต่าง ๆ ตามความเป็นจริง
          เพราะบางคนอาจจะอยู่ในโลกที่คิดว่าตัวเองเก่งเกินไป
          จนทำให้ประเมินสถานการณ์ผิด

          ข้อความคัดลอกจาก ถนนสายนี้ไม่มีทางลัด บทสัมภาษณ์ โชค บูลกุล
          มติชนวันอาทิตย์ 17 ธันวาคม 2549 หน้า 20

            

          ภาพประกอบจาก พี่ไส้เดือนดิน ณ ไทยมุง 
         
http://www.thaimung.net/lanthaimung/webboard/images/04860-5.jpg

Read Full Post »


          มือปืนรับจ้าง

        น้องครับ ช่วยเป็นมือปืนรับจ้างให้พี่หน่อยได้ไหม??
        คุณตำรวจนอกเครื่องแบบถามได้หน้าตาย และไม่ใช่มุข
        พี่จะให้หนูทำอะไรบ้าง?? ถามกลับแบบหน้าตายและไม่กลัวมุขเช่นกัน
        ทำยังไงก็ได้ให้พี่เรียนจบโท. หนะครับ 
        อ่อนะ แล้วพี่รู้ได้ไงเนี่ย ว่าหนูเป็นมือปืนรับจ้าง ใครบอกมา (อันนี้คิดใจใจ)
        พี่ทราบจากไหนค่ะ ใครเป็นคนแนะนำพี่ ว่าหนูจะทำ thesis ให้พี่
        ไม่หรอก พี่มั่วถามเอา เห็นน้องกำลังทำวิจัยอยู่เนี่ย เอกสารเป็นกอง
        อ่อ เข้าใจแล้วๆ พี่เอาเบอร์โทรมาละกันค่ะ แต่เรื่องเกี่ยวกับกฏหมายไม่ถนัดนะพี่
        ไม่เคยทำ ทำแต่เศรษฐศาสตร์เกษตรกับส่งเสริมการเกษตร แล้วก็พวกบริหารธุรกิจ
        พวกนั้นน้องคงหลับตาเขียนได้แล้ว ลองเปลี่ยนแนวดูนะ เท่าไหร่ก็ได้
        เดี๋ยวพี่ไปขอเงินเมียมาจ่ายให้ (แป่ว!!!)
        ขอเป็นที่ปรึกษาให้ละกันนะพี่นะ อย่าถึงกับให้เขียนให้เลย หนูกำลังปั่นวิจัยอยู่
        แล้วต้องอ่านหนังสือสอบด้วย อาจจะทำให้ทั้งเล่มไม่ไหว
        ผิดจรรยาบรรณวิชาชีพเราทั้งคู่เลยนะพี่นะ 555

          อยากไปทะเล
        ต้นปีหน้า พ่อจะไปสัมมนาที่ตรัง ได้ยินก็หูผึ่ง อยากไปทะเลขึ้นมาจับใจ ติดอยู่ที่ว่า
        ถ้าพ่อไปเดี่ยว เราก็ลางานตามพ่อไปได้ หนีบแชทบินไป หรือจะนอนในรถไฟก็ไม่เกี่ยง
        แต่พ่อต้องพกลุงหมงไปด้วยแน่ๆ เราหละ จะไปได้ไหมนี่ แม่อยากไปทะเลเพราะอยากย้อนความทรงจำ
        และอยากสร้างความทรงจำใหม่ให้แชท เด็กดอยผู้ไม่เคยเห็นทะเล (เหมือนแม่ตอนเด็กๆ)
        อาหารที่ตรังก็น่ากินทั้งนั้น หมูย่าง ติ่มซำ เค้ก และของอ้วนๆ อีกหลายอย่าง
        เพื่อนฝูง ลูกเจ้าของโรงแรม ยังอยู่สบายดีไหมนี่ จะติดต่อเธอดีไหม จะได้พักฟรี หุหุ
        เธออาจจะไปกรีดกรายอยู่แพรีด หรือที่ไหนซักแห่งที่ไม่ใช่เมืองไทย
        อาจจะกรีดตาสามชั้นครึ่ง เสริมดั้งอีกนิด ทำแก้มอีกหน่อย เพื่อกลบความหมวยของเธอ
        เอาเป็นว่า ถ้าได้ไปจริงๆ คงจะนัดเจอกันได้ไม่ยาก อ่อ!!! เฮียน้องอีกหละ
        พี่ชายที่ชื่อเหมือนกัน และเรียกว่าเฮียได้เนียนแบบไม่ขัดเขิน
        เฮียเป็นตี๋ที่ดำได้ใจจริงๆ คิดถึงทะเล คิดถึงเมืองตรัง คิดถึงเมืองใต้ (ใจจะขาด)

Read Full Post »

             ตอนเย็นหลังจากที่ทำการบ้านเสร็จ แม่บอกให้แชทเอาหนังสือมาอ่าน
          แชททำหน้าตาย เดินไปหยิบหนังสือนิทานพูห์มาให้แม่อ่าน แม่บอกว่า อ่านหนังสือเรียนลูก
          ก.ไก่ ก.กา แชททำหน้าเอ๋ออีกรอบ เพราะไม่อยากอ่าน พออ่านไปได้สองสามหน้า
          เริ่มเสียงสั่น ปากสั่น อาจผิดๆ ถูกๆ เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า แชทลืมหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้
          แชทอ่าน ก.ไก่ ก.กา ได้ทั้งเล่มแล้ว แต่แม่กลัวว่า แชทจะไปอวดเก่งกับครูอีก ไม่เชื่อฟังที่ครูสอน
          แม่เลยงดสอนวิชาการให้ลูกมานานแล้ว เป็นเหตุผลทำให้แชทลืมการอ่านหนังสือเรียนไปแล้ว

           แม่ให้แชทอ่านซ้ำ อันที่แชทอ่านไม่ได้ แชทถึงกับน้ำตาร่วง เพราะไม่คิดว่าตัวเอง
          จะอ่านไม่ได้แชทคิดมาตลอดเวลา ว่าแชทอ่านหนังสือได้ (เหมือนกับแม่คิดว่าแชทยังอ่านหนังสือได้)
          หลงตัวเองทั้งแม่ทั้งลูกเราสองแม่ลูก ได้แต่นั่งกอดกัน เพราะแชทร้องไห้สะอึกสะอื้น
          ที่อ่านหนังสือไม่ได้หลายตัว สงสัยต้องมาเริ่มกันใหม่ ไม่หนัก ไม่หย่อนยานจนเกินไป
          หลังจากที่หันหน้าหนีวิชาการมานานแล้ว
เราคงต้องกลับไปเรียนหนังสือหนังหากันบ้าง
          ตามประสาแม่ลูก เพราะมัวแต่ไปเรียนรู้นอกตำราเยอะเกินไป แต่ถ้าเคร่งครัดเกินไป
          ก็กลัวว่าจะไปยัดเยียดสาระให้ลูกอีก แต่ถ้าไม่สอนเลย ลูกก็จะลืมวิชาเรียนหมดเลย

           สองคนแม่ลูก นั่งเศร้าใจกันพักใหญ่ กับการอ่านหนังสือไม่ได้ของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
          แต่พอแม่ถามว่า วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง แชทก็มีแววตาแห่งความสดใสกลับมา
          พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่รร. เสียงแจ๋วๆ เหมือนเดิม และบอกว่า คุณครูปิก ลาออกไปแล้ว
          เพราะทนไม่ไหวกับแก๊งค์สี่สหายตัวป่วน ที่ประกอบไปด้วย นิวเคลีย์ (หัวโจก) ฟลุ๊ค ฟิล์ม และแชท
          ครูคนใหม่มาได้แค่สองวัน ก็ลาออกไปอีก น่าสงสารคุณครูจังเลย ที่ต้องรบกับทะโมนพวกนี้
          แค่แม่รบกับแชทคนเดียว ก็ใช้สารพัดกลยุทธ์แล้ว เป็นครูอนุบาลที่ลำบากกว่าเป็นบรรณารักษ์ เห็นๆ เลย

Read Full Post »


          ราศีมีน หรือ 15 มี.ค. ถึง 12 เม.ย.

          ท่านมีภาระสำคัญ เป็นสิ่งที่ต้องรับผิดสูง แต่ไม่ค่อยได้รับชอบ
          คนที่ถูกโลกอันสับปลับและลึกลับทรยศจะมุ่งหน้ามาหาท่าน
          ขอให้ช่วยเหลือหรือเป็นกำลังใจให้พวกเขาสู้ต่อ
          ท่านมีสายตาแหลมคมมักเห็นสิ่งผิดพลาดขาดตกบกพร่องในสังคมและผู้ร่วมงาน
          แต่ถ้าท่านพูดไปก็เกิดศัตรูทันทีการติเพื่อก่อไม่มี
          ท่านไปติใครก็เท่ากับเป็นการทำลายไมตรีจิตมิตรภาพ จะสูญเสียญาติมิตรทันที

          —-เป็นด้วยประการฉะนี้—-

        ข้อคิดประจำวัน "ไม่กอบทรายเอามาฟั่นเชือก" จาก รงค์ วงษ์สวรรค์

Read Full Post »

Older Posts »