เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 24 สิงหาคม 49
แม่ไปปลุกแชทตอนเช้า ให้ลืมตาขึ้น แต่ตาของลูก ลืมไม่ขึ้น 1 ข้าง
เพราะมันเต็มไปด้วยขี้ตา พอลงมาล้างหน้า แข่งกันแต่งตัวกับแม่
เพิ่งเห็นว่า ตาข้างซ้ายลูกแดง 1 ข้าง เป็นอันตกใจกันใหญ่ แต่งตัวเสร็จแล้ว
กำลังจะรีบไปโรงเรียน ก็เลยต้องรีบไปหาหมอแทน คุณหมอนิพนธ์ไม่อยู่ไปทำงานแล้ว
คุณหมอสุรชาย หมอประจำตัวแชทก็คงไปทำงานแล้วเช่นกัน พ่อกับแม่เลยต้องพาแชท
ไปสถานีอนามัย หมอก็ให้แค่ยาหยอดตามา 1 ขวด แม่เลยให้แชทหยุดเรียน อยู่บ้านกับย่า
วันศุกร์ ที่ 25 สิงหาคม 49
แม่มีอาการตาแดง ลืมตาแทบไม่ขึ้น แต่ของแชทตาเริ่มไม่แดงแล้ว แต่ก็เป็นทั้งสองข้างเลย
ตาแม่แดงข้างขวา คนละข้างกับแชท แต่เราคงติดต่อกันแน่ๆ แม่เลยต้องลางาน
และไปหาหมอที่รพ. ลานนา ตอนขับรถไปยังไม่เท่าไหร่ แต่ขากลับ มันมัวกว่าเดิม
ทั้งๆ ที่ใส่แว่นตาแล้ว แถมยังต้องไปแวะริมปิง ซื้อชาให้ตาทองอีก คราวนี้แม่ไม่มีเวลา
เอ้อระเหยดูของอื่น ทั้งๆ ที่มาคนเดียวแท้ๆ โอกาสทองเลยนะเนี่ย (แชทอยู่กับย่าที่บ้าน)
ตาเริ่มบวมแดง และเคืองตามาก เลยต้องรีบกลับ ขับรถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
เพราะมันมัวๆ ทัศนวิสัยการมองไม่ค่อยดีเลย ตอนเย็นแชทอยากไปร้านสิบแปดพอดีมาก
เพราะว่าไม่ได้ออกไปไหนเลย ลูกต่อรองด้วยการขอไป seven เป็นการชดเชย
ที่ไม่ได้ออกไปไหน แม่เลยพาลูกไป seven เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแชทไปซะแล้ว
เอะอะอะไรก็ชดเชยด้วยการไป seven ถ้าไม่ได้ไป คงใจจะขาดรอน ๆ
นี่ถ้าคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ CEO ของ seven รู้เข้า คงปลื้มใจเป็นอันมาก
เพราะนอกจากคุณก่อศักดิ์ จะพยายามทำให้พนักงานของเค้าให้ความสำคัญกับ seven
ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตอนนี้คุณได้ทำให้ seven กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
ของเด็กสามขวบกว่าแล้วด้วยเช่นกัน 😛
วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 49
แม่กับพ่อต้องปั่นงานอยู่บ้าน ทั้งๆ ที่ตาแม่ยังมัว ๆ อยู่ แต่ต้องวิเคราะห์ไคสแควร์
ให้นายอนุลักษณ์อีก 90 ตาราง ให้ตายสิ รศ.ดุษฎี ทำแม่ลำบากอีกแล้ว
แกคิดมากตามประสาคนรู้มาก ซึ่งตรงข้ามกับแม่ คิดน้อย และทำน้อย
เลยต้องมานั่งแก้ตารางจาก 15 ตาราง เป็น 90 ตาราง อาจารย์ไม่คิดถึงเลยว่า
เราต้องแก้ตั้งแต่บทคัดย่อ จนถึงบทที่ 5 เลยด้วยซ้ำ (คนเบื้องหลังบ่นมากไม่ได้
เพราะไม่มีสิทธิ์ออกเสียง) ช่วงสายๆ ของวันเสาร์ ย่าเริ่มมีอาการตาแดง
ข้างขวาเหมือนกับแม่ แต่ย่ายังไปวัดอยู่ เพราะนัดเพื่อนๆ ที่รำมวยจีนไว้
และพ่อก็เริ่มเป็นตาแดง เทรนเดียวกันหมดบ้านแล้ว เหลือแต่หมาอานคนเดียวที่ไม่เป็น
อ้อ!! น้าโภชน์ยังไม่กลับจากพานักศึกษาไปเข้าค่าย ก็เลยไม่ติดด้วย แชทบอกว่า
ถ้าตาพลและยายอ่อนมา แชทจะให้ติดตาแดงเหมือนกัน และจะไม่ให้ตาพลหยอดยาด้วย
(ใจร้ายจัง)
วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 49
ไม่ได้ไปบ้านพี่เอิร์ธตามที่นัดหมายไว้ แชทเศร้าใจเล็กน้อย เมื่อวานแม่ก็ไม่ได้ไปสัมมนา
การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กอัจฉริยะ เพราะแม่กลัวว่า คนอื่นจะรังเกียจตาแดงๆ ของเราสองแม่ลูก
โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อย แต่เราก็พลาดมันจนได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะแบบไหน
แชทก็เป็นแชทอยู่วันยังค่ำ เป็นตัวของตัวเอง คิดแบบของตัวเอง (ที่ไม่มีใครสอน)
และมีเรื่องให้ประหลาดใจได้ทุกครั้ง ตอนกลางวัน ยาแก้อักเสบที่หมอให้มาหมดแล้ว
เพราะย่ากินกับแม่ แต่ของพ่อไม่มี ก็เลยกินด้วยกันหมดบ้าน ต้องโทรไปถามหมอคิดเพื่อนแม่
ว่ายาแก้อักเสบตัวอื่น กินแทนกันได้มั้ย หมอคงตลกดีเหมือนกัน ที่เราถามอะไรกันแปลกๆ
แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาสุขภาพ แม่ก็คิดถึงหมอคิดเป็นคนแรกทุกที
(มีเพื่อนเป็นหมอ ก็ดีอย่างนี้นี่เอง) ตอนบ่ายมีนกบินมาชนกระจกบ้านเราแตก วุ่นวายกันอีก
และแชทก็เล่น Check list ชื่อคน เพื่อเชิญทุกคนงานปาร์ตี้ที่บ้านแชท และขนของต่าง ๆ
มาเล่นเต็มบ้าน ทั้งแก้วน้ำ ของขวัญ ตะกร้าผ้า และก็ได้เวลาแม่ปั่นงานต่ออีกแล้ว
เพราะสี่โมงครึ่ง พ่อมีนัดกับลูกค้าที่ฟาร์อิส แม่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะไปเซนทรัลดีไหม
กลัวเสียเงิน และกลัวลูกไปกินอะไรที่ผิดสำแดงจนตาแดงกำเริบอีก
คิดว่า น่าจะไปรอพ่อที่ทำงานดีกว่านะ