Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for กุมภาพันธ์, 2008

อร่อยในบ้าน

 
         

          เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจขาลง และช่วงการรณรงค์เพื่ออยู่แบบพอเพียง
          การเดินสายตะลอนกินอาหารแบบอร่อยนอกบ้าน จึงควรถูกตัดทอนโปรแกรมลงบ้าง
          และมีข้ออ้างอีกล้านแปด เช่น อยู่เวร ลดความอ้วน ต้องออกกำลังกาย หรือไม่มีที่จอดรถ
          ยกเว้นถ้ามีคนเลี้ยง ข้ออ้างล้านแปดที่กล่าวมา ก็จะถูกยกเลิกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

          เคยกินแกงกะหรี่ไก่โรตี ที่ร้านข้าวเม่า ข้าวฟ่าง แต่เนื่องจาก 1 จานที่สั่งมา
          ฉันกินคนเดียวก็หมดจานแล้ว จึงคิดว่าเราควรจะมาทำกินเองดีกว่า เพราะถ้าไปนั่งที่ร้านบ่อยๆ
          นอกจากเราจะจนลง ก็จะทำให้เจ้าของร้านรวยขึ้นอีกเยอะ ซึ่งปกติเค้าก็รวยของเค้าอยู่แล้ว
          หากไฮโซ กทม.คนไหน หรือคนที่ชอบอาหารอร่อยบรรยากาศดี ขอแนะนำเลยสำหรับร้านนี้

          มีอาหารอร่อยๆ อีกเพียบ บรรยากาศแสนจะโรแมนติค วิ่งหนีความวุ่นวายจากริมน้ำปิง
          มาอยู่แถบชานเมืองฟากหางดง รับรองไม่ผิดหวังทั้งบรรยากาศและอาหาร รวมถึงไวน์ชั้นดี
          พูดมาเหมือนได้ค่าโฆษณาจากเค้า แต่ไม่ใช่ อะไรอร่อยๆ ที่ไหนก็อยากจะบอกเล่าถึงกัน
          แต่ถ้าจะให้ถึงกับการันตีทุกร้านในเชียงใหม่ก็คงไม่ได้ เพราะบ้านฉันกินอะไรก็อร่อยหมดแหละ

          วกมาถึงการอร่อยในบ้านตามที่บอกไว้ เมื่ออยากกินแกงกะหรี่ไก่โรตี ก็ไม่มียุ่งยากอีกต่อไป
          เพราะแป้งโรตีสำเร็จรูปมีขาย เท่าที่เคยซื้อก็มีที่ริมปิงกับที่ร้านดอยคำ ส่วนที่อื่นยังไม่เคยไป
          ส่วนแกงกะหรี่ไก่บอกตามตรงว่าทำไม่เป็นหรอก ใครจะมาหาวิธีทำแถวนี้ คงคิดผิดเพราะไม่มีให้
          แม่บ้านอย่างฉันแค่มีหน้าที่ซื้อมันฝรั่งมาจากโครงการหลวง แล้วก็ให้แม่สามีทำให้ทานนั่นแหละ

          เวลาจะทานก็นำโรตีไปทอด ถ้าจะให้หอมอร่อยก็ทอดกับเนยให้หอมๆ แบบที่แขกทำโรตีนั่นแหละ
          หรือจะทอดกับน้ำมันก็ได้ จะได้สะสมความอ้วนไปด้วยกัน จากนั้นก็นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
          รับประทานกับแกงกะหรี่ไก่ หรือใครจะเปลี่ยนเป็นมัสหมั่นไก่ก็ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นเนื้อก็ดี
          แล้วแต่ความชอบเลย แต่ข้อควรระวังก็คือ อย่าทานบ่อยเพราะจะทำให้อ้วน (แค่นั้นแหละ)

         

          ส่วนอีกเมนูหนึ่ง เป็นของโปรดของลูกชายอิฉัน ด้วยเหตุผลเดียวกันว่าถ้าเราซื้อแบบกล่อง
          ข้าวเหนียวมะม่วง 1 กล่อง สามสิบบาท แถมลูกชายสุดที่รักยังกินทิ้งกินขว้างอีก
          ถ้าเป็นเมื่อก่อน เทศบาลอย่างแม่ก็จะเก็บกวาดลงท้องเสียให้เรียบ แต่หลังจากที่ทำมาหลายปี
          ทำให้แม่อ้วนแต่ลูกกลับผอม ตอนนี้เลยซื้อแต่น้อย ลูกก็กินแต่น้อย แต่กินบ่อยๆ ได้

          ด้วยวิธีง่ายๆ แบบอร่อยในบ้านคือ ซื้อข้าวเหนียวมูล หรือข้าวเหนียวมะม่วงนี่แหละ
          ซื้อแยกต่างหากเลย ดีที่แม่ค้าใจดีสิบบาทก็ยังขายให้ เพราะบอกว่าเอาไปให้ลูกชายกิน
          ส่วนมะม่วงก็ซื้อมาหลายๆ ลูกเลย ทำให้ถูกกว่าเราไปซื้อเป็นกล่องๆ ถ้าไม่ใส่กล่องโฟม
          ช่วยลดโลกร้อนได้ด้วยเห็นไหมละ (เอามาเกี่ยวกันจนได้ ทั้งๆ ที่อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวเท่าไร) 

          สรุปแล้วการอร่อยนอกบ้านหรือในบ้าน ก็อยู่ที่เราเลือกที่จะมีความสุขกับมันนั่นแหละ
          หลายๆ คนอาจจะมีความสุขกับการไม่ต้องกิน ไม่ต้องหิว แต่อีกหลายคนก็ให้ความสำคัญ
          เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องตายเรื่องเล็ก แบบบ้านอิฉันนี่แหละ กินเสียตั้งแต่ตอนนี้
          ดีกว่าอยากกินแล้วกินไม่ได้ แล้วจะรู้สึกเศร้านะ สิบอกไห้ อ้วนไม่เป็นไรขอให้ได้กิน

Read Full Post »

พ่อใครมา…น้ำตาใครไหล

 
          ถ้าเป็นสมัยตอนเป็นเด็กอนุบาล ตอนที่เรียนอยู่อนุบาลพระราชทานของสถานีอนามัยบ้านป่าห้า
          ที่อยู่ใกล้กับโรงงานของโครงการหลวง เวลาตอนเย็นๆ ถ้านั่งรอพ่อมารับกลับบ้าน คุณหมอจะล้อว่า…
          "พ่อใครมา…น้ำตาใครไหล" ล้ออยู่ทุกวันๆ ไม่รู้จักเบื่อ ส่วนคนโดนล้อสุดแสนจะเบื่ออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

          เมื่อวานเย็นเห็นในทีวี เห็นพี่น้องสองสาว เอ๊ะหรือว่าสามสาวรวมคนโตด้วยนะ (ต้องรอเจ๊มดดำมาคอนเฟิร์ม)
          พอสาวๆ เห็นหน้าพ่อที่เดินมา ถึงกับร้องไห้กันเลย ไม่รู้ดีใจหรือเสียใจที่เห็นหน้าพ่อตัวเองในเมืองไทย
          เพื่อนๆ หลายคนบอกว่า ยังกับไม่เคยกันหน้ากันที่เมืองนอก สงสัยน้องเค้าคงดีใจและไม่นึกว่า
          จะได้เจอหน้าพ่อตัวเองอีกในเมืองไทยนะ เลยต้องตื้นตันกันเป็นธรรมดาอย่าไปว่าเค้า (ทีเรายังแอบว่า หุหุ)

          เมื่อวานน้องชายหายไป ที่คณะตามตัวให้วุ่น พอมาถามฉันซึ่งเป็นพี่สาว เลยตอบไปกวนๆ 
          ว่าฮีไปรับว่าที่พ่อตาที่ กทม. จริงๆ แล้ว ฮีอยู่ในไร่ เพราะเด็กๆ ปิดเทอม ต้องเข้าไร่ไปฝึกงานกัน 
          แต่ฮีก็อยากเอามือบ้านนอกๆ แถมมีกลิ่นสาบคนจน ไปเช็ดน้ำตาให้สาวๆ ตามหน้าที่ว่าที่ลูกเขยอยู่เหมือนกัน

          สำหรับฉัน วันนี้ที่รอคอยก็มาถึง ไม่ใช่ว่ารอลุงทักกลับมาหรอกนะ เพราะไม่ว่าแกจะอยู่ไหน
          มันก็ไม่ได้เกิดผลอันใดแก่ชีวิตฉัน ไม่ได้ทำให้ฉันรวยขึ้น จนลง หรือมีความสุขลดน้อยลงแต่อย่างใด
          แต่สิ่งที่น่ารอคอยเมื่อถึงคราวปรากฎกายของลุงทักก็คือ บอดี้การ์ดหน้าหล่อคนนั้นคนเดียว

          เห็นแว้บๆ ตั้งแต่เดินข้างลุง จนมาถึงลูกเมีย ฮีพูดกับนักข่าวว่า อย่าดันๆ ทำหน้าที่กันให้สุดฤทธิ์
          ตอนไปรายงานตัวก็เปิดประตูให้ นั่นแหละๆ คนนั้นแหละ ที่อิฉันรอคอย เพราะฮีหายไปนาน
          ตั้งแต่มีรถถังออกมาแพ่นพ่านนั่นแหละ เลยอดเห็นหน้าหล่อๆ แมนๆ ของบอดี้การ์ดคนนั้นเลย

          ส่วนหน้าเหลี่ยมๆ ใครจะปลื้มก็ปลื้มไป ใครดีใจก็ดีใจไป ไม่ว่ากัน เพราะไม่ใช่พ่อฉัน อิอิ
          จริงๆ แล้ว สายรายงานมาว่า ที่ลุงทักกลับมาเมืองไทยช่วงนี้ เพราะต้องการจะมาดูเดี่ยว 7 ของเฮียโน้ส
          มาดูหนังถอดรหัส วิญญาณ ที่คุณปลื้มแสดง (เพราะจะเป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ได้แสดงหนัง อิอิ) 

          เอ๊ะ หรือว่าจะมาดูนายชัดเจนกับน้องแป้งแสดงละครเวทีในบางรัก ซอย 9 ต่างหากเล่า เค้าเล่นวันนี้นะ
          แต่จะว่าไป จะมาทำไมก็ช่างลุงเค้าเหอะ อ้อ ลืมทวงของฝากค่ะลุง ลุงเอาน้ำใบบัวบกมาฝากลุงหนูไหม
          เพราะตั้งแต่ลุงตู้เย็นตกบัลลังค์เมื่อหลายวันก่อน อาการช้ำใน ช้ำอกช้ำใจ ยังไม่หายเลยหละจ๊ะ

            

Read Full Post »

SOUL’ S CODE : ถอดรหัส…วิญญาณ

 
          วันนี้เป็นวันที่หนังเรื่อง "ถอดรหัส วิญญาณ" เรื่องนี้จะเข้าฉายอย่างเป็นทางการ 
          ตามที่เค้าบอกๆ มาตามสื่ออะนะ ส่วนรอบสื่อมวลชนคงได้ดูกันไปแล้ว
          ที่ต้องมาเขียนไว้ทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับผู้กำกับหรือเจ้าของหนังเรื่องนี้

          อยากจะเกี่ยวข้องอยู่บ้าง ก็คนที่เป็นพระเอกของหนังถอดรหัส วิญญาณ เรื่องนี้แหละ
          แต่พอดีว่าปูนนี้แล้ว จะไปกริ๊ดๆ เป็นสาวน้อยแฟนคลับเค้าก็คงจะไม่งาม
          และที่ต้องโพสรูป โพสเรื่อง ไว้ในนี้ ก็เพราะเดี๋ยวสาวน้อยทั้งหลายจะหาว่าเจ๊ชะอมไม่สนใจ

          เห็นว่าน้องๆ เค้าจะนัดกันไปดูวันศุกร์นี้ แต่สำหรับเราผู้ไม่ดูหนังผี และก็ไม่คิดจะดูหนังผีเรื่องไหน
          ก็เลยทำหน้าที่โปรโมทให้เค้าหน่อย สำหรับใครที่ชอบดูหนังผีแบบตื่นเต้นและสืบสวนสอบสวน 
          น่าไปดูนะ ส่วนใครที่ไม่ชอบพระเอก ก็ข้ามๆ ไป ไปใส่ใจเนื้อหาของหนังดีกว่า เค้าว่าตื่นเต้นน่าดู

          จริงๆ กระแสหนังเรื่องนี้ดีนะ ลองไปดูในเฉลิมไทยไหลตามน้ำสิ แม้บางคนจะไม่ปลื้มคุณปลื้ม
          เพราะเมื่อก่อนฮีทำชาวเหลิมไทยอกหัก ตอนที่เค้าหลงรักหัวปักหัวปำกันอยู่ดีๆ หนีตีจากเฮีย ส.
          แล้วอยู่ๆ ก็กลับมาอยู่ช่องสามอีก ทำเอาชาวเหลิมฯ ของเรา ทั้งรักทั้งเกลียดเป็นโศรยาขาวีนเลย

          หนังเรื่องนี้ คงจะเป็นหนังเรื่องแรก และเรื่องเดียวของคุณปลื้ม ตามที่เค้าบอกไว้นะ 
          (ส่วนเค้าไหนเป็นคนบอกนี่ไม่รู้เหมือนกัน) แต่ถ้าบังเอิญได้รางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมแห่งปี
          อาจมีเรื่องที่สองตามมา หุหุ เอาเป็นว่างานนี้ไม่มีเชียร์ (แต่เขียนมาซะยาว) แล้วแต่รสนิยมคนดูเลยจ๊ะ

            

            ปล. ขอแซวโปสเตอร์ กับแซวหน้าคุณปลื้มหน่อยนะ แบบว่า มันอดไม่ได้ อิอิ

         สีหน้าคุณปลื้มตอนซีเรียส = (-__-)        สีหน้าคุณปลื้มตอนสงสัย = (-__-)
         สีหน้าคุณปลื้มตอนโกรธ = (-__-)          สีหน้าคุณปลื้มตอนตื่นเต้น = (-__-)
         สีหน้าคุณปลื้มตอนกลัว = (-__-)           สีหน้าคุณปลื้มตอนเจอผี = (-__-)
         สีหน้าคุณปลื้มตอนแอ็คชั่น = (-__-)       หน้าเดียวกันตลอด อิอิ

Read Full Post »

Pooh Corner…บ้านมุมพูห์

 
          เราแอบไปขนเตียงจากบ้านดอยสะเก็ดเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ก่อน และแชทก็เฝ้ารอ
          ให้ถึงวันหยุดวันมาฆะบูชา เมื่อหยุดอยู่บ้าน พ่อก็เลยประกอบเตียงสองชั้นอันนี้ให้กับน้องแชท
          เพื่อสร้างบ้านมุมพูห์หรือ Pooh corner แบบฉบับลอกคริสโตเฟอร์ โรบิ้นมาแบบแป๊ะๆ

          เตียงนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากแม่ตี้ พี่เอิร์ธ และพ่ออั๋น เพราะลำพังถ้าให้เราซื้อ
          พ่อกับแม่คงไม่มีปัญญาซื้อหามาให้แชทนอนเกาพุงเล่นเป็นแน่แท้ เพราะมันแพงเกินความจำเป็น
          มันจะกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่หรูและแพงที่สุดในบ้านเราไป แต่เราซื้อมันมาได้ในราคามิตรภาพ

          จะขอมาฟรีๆ ก็เกรงใจเจ้าของเดิม เพราะพี่เอิร์ธก็แสนจะหวงอยู่เหมือนกัน แม่น้องเลยสมทบทุน
          ให้พี่เอิร์ธได้ซื้อเตียงใหม่ ตามแบบฉบับเด็กโตเกือบเป็นวัยรุ่น ส่วนแชทก็ตามเก็บคอลเล็คชั่นไป
          แบบว่าใช้ของตามพี่จะดีกว่าน้อง เพราะว่าพ่อแม่แชทไม่รวยแบบพ่อแม่พี่เอิร์ธ (อันนี้แชทพูดเอง)

          ตอนประกอบเตียงแสนจะลำบาก เพราะมันทั้งหนักทั้งสับสนในชิ้นส่วนและน๊อตต่างๆ 
          พอโทรไปถามช่างตามเบอร์ที่แม่ตี้ให้มา ช่างโฮมโปรแนะนำว่า ให้พี่ลองประกอบเองดูก่อนนะ
          เพราะถ้าให้ช่างของ S.B. ที่อยู่ประจำโชว์รูมไปประกอบให้ เค้าจะคิดเป็นพันเลย ไม่รู้พูดจริงหรือขู่

          ไฉนเลยจะรอให้ช่างมาประกอบให้เสียเงินเป็นพัน โปรแกรมเมอร์กับบรรณารักษ์ก็คงสามารถอยู่
          เพราะต้องเอาเงินเป็นพันไปซื้อที่นอนหมีพูห์มาปูให้เข้า concept pooh corner อีก 
          แต่ก็ใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงเท่านั้น โปรแกรมเมอร์หน้ามันและบรรณารักษ์หัวยุ่ง

          ก็สามารถประกอบเตียงสองชั้นให้ลูกชายสุดที่รักได้สำเร็จ แต่ขาดอะไรไป 1 อย่างรู้ไหม
          ไม่ได้เอาบันใดมาอะสิ เพราะตอนที่ขนมามันเต็มรถแล้ว ไม่สามารถเอาบันใดใส่อีกได้
          เย็นนั้นเลยต้องไปคาร์ฟู ซื้อฟูกที่นอนหมีพูห์ และช่วยกันขนตุ๊กตามาประดับก่อน

          พอหลังจากเลิกงานของวันรุ่งขึ้น พ่อกับแม่ก็ต้องรีบบึ่งรถไปบ้านสวนดอยสะเก็ดอีกรอบ 
          เพื่อไปขนบันใดมาให้ลูกรัก เพื่อใช้ปีนขึ้นไปนั่งเก็กท่าถ่ายรูปบนเตียงชั้นบนได้
          แต่สรุปแล้ว ก็ยังไม่กล้านอนเป็นจริงเป็นจัง เพราะยังติดจะนอนกับแม่อยู่ อ้างนั่นอ้างนี่สารพัด

          เลยให้ผองเพื่อนที่เป็นตุ๊กตาต่างๆ นอนไปพลางๆ ตอนส่งรูปน้องแชทโพสท่าบนเตียงไปให้ป้าเปิ้ลดู
          ป้าเปิ้ลบอกว่า แชทซื้อที่นอนมาให้ตุ๊กตานอนเหรอเนี่ย พ่อแม่มันช่างลงทุนเน๊อะ ก็แหงละสิ
          เพราะแชทยังไม่กล้านอนคนเดียว สรุปแล้วตุ๊กตาบ้านนี้นอนเตียงแพงกว่าเตียงเจ้าของบ้านอีก

            

Read Full Post »

 
          ว่าจะเขียนเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีโอกาสซักที วันนี้ดูรายการเรื่องเด่นเย็นนี้
          มีข่าวเกี่ยวกับ "ยุทธการยึดน่านฟ้า…สุวรรณภูมิ" เป็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านแถวสนามบิน
          ที่ยังไม่ได้รับค่าตอบแทนจากผลกระทบทางเสียงจากการขึ้นลงของเครื่องบิน

          เลยจะปฏิบัติการยึดน่านฟ้า (ยังกะจะทำสงครามเลยนะเนี่ย) โดยการปล่อยโคมลอยและจุดบั้งไฟ
          เลยขอความกรุณามา ณ ที่นี้นะคะ สำหรับใครที่มาค้น "วิธีทำโคมลอย" จากในสเปซนี้
          เพราะมีคำค้นคำว่า "วิธีการทำโคมลอย" เข้ามาทุกวัน วันละหลายๆ รอบ หวังเพียงว่า…

          สิ่งที่เขียนในสเปซนี้ จะถูกนำสร้างสรรค์หรือสานต่อในสิ่งที่ดีงาม ไม่ก่อเกิดผลร้ายแก่ใคร
          หากใครที่ได้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำโคมลอย เพื่อไปก่อกวนระบบการบินของสนามบินสุวรรณภูมิ
          หรือนำไปใช้ในทางไม่สร้างสรรค์ ขอโปรดได้คิดใหม่นะคะ เราไม่อยากให้ใครต้องเดือดร้อน – ขอบคุณค่ะ-

           

Read Full Post »

 
          วันนี้เป็นวันหยุดของเพื่อนๆ หลายๆ คน เหมือนกับที่เป็นวันหยุดของฉัน เลยลองถามเพื่อนบางคนไปเล่นๆ 
          ว่าถ้าจะให้ตีราคาค่าความเป็นเพื่อน จะให้ตัวเองเท่าไหร่ สำหรับความเป็นเพื่อนที่มีต่อฉันหรือเพื่อนคนอื่นๆ
          จริงอยู่คำว่า "เพื่อน" ไม่อาจวัดมูลค่าเป็นตัวเงินได้ แต่ตัวทองอาจจะวัดได้นะเพื่อนนะ หุหุ

          แต่ด้วยในสังคมปัจจุบัน คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่คนชอบตีราคาหรือประมาณคุณค่าของสิ่งต่างๆ เป็นค่าเงิน
          ก็เลยลองถามเพื่อนฉันดูว่า พวกเธอหนะมีมูลค่ากันเท่าไหร่ เผื่อฉันจะได้เอามาตีแผ่ในสเปซ
          หากว่าใครจะไปสู่ขอ จะได้เตรียมสินสอดทองหมั้นให้ถูกใจและถูกจำนวนว่างั้นเหอะ

          เอาที่ฉันประเมินเพื่อนรักฉันก่อน ฉันบอกอ๋อมว่า อ๋อมมีมูลค่าประมาณล้านห้า เพราะพ่อแม่อ๋อมรวย 
          สมบัติวันหน้าจะตกเป็นของอ๋อมหมดเลย และอ๋อมต้องดูแลน้องสาวด้วย แต่อ๋อมบอกว่า ฟรีนะเธอ
          อ๋อมไม่มีมูลค่าแต่ให้ไปแบบฟรีๆ เลย อิอิ เหมือนเบญเลย เบญก็บอกว่า ฉันก็ยกให้ฟรีๆ ได้นะ

          สงสัยเบญอยากเป็นเจ้าสาวเต็มแก่แล้ว ประกาศๆๆ ถ้าแฟนเบญเข้ามาอ่าน เราจะเป็นเถ้าแก่ให้นะ
          เพราะถ้าเราไปเจรจาสู่ขอ เบญบอกว่าจะยกให้ฟรี อิอิ ว่าแต่ว่า พ่อแม่เบญจะยอมไหมนี่
          ส่วนคนสุดท้าย ท้ายสุดของเรา ฮีตีราคาตัวเองไว้ที่หมื่นห้า เพราะราคาฮีตกมากถ้าเทียบคุณสมบัติ

          ปากหมา ด่าแหลก กินแหลก เรียกได้กว่า ปากร้ายแต่ใจดี สำหรับเพื่อนๆ แล้ว จริงใจกับเพื่อนมาก
          เราบอกว่าอิโจ๊กหนะ มันมีพี่สาว คงไม่ได้สมบัติจากพ่อแม่เยอะหรอก แต่ก็คบๆ มันไว้แบบนั้นแหละ
          แก่เฒ่ามามันก็คงไม่รวย หุหุ อ๋อมบอกว่ามันเป็นลูกชายคนเดียวนะ คงได้เยอะอยู่ คบมันไว้ อิอิ

          ดูเหอะนะคนเรา ถ้าในชีวิตจริงเราตีมูลค่า ตีราคาเพื่อนให้เป็นเงินเนี่ย เพื่อนๆ จะรู้สึกยังไงบ้างนะ
          ฉันคบอ๋อมเพราะพ่อแม่อ๋อมรวย ฉันคบเบญเพราะเบญเป็นข้าราชการเอาไว้พึ่งพาได้ ฉันคบโจ๊ก
          เพราะเงินเดือนเยอะจะได้เอาไว้เลี้ยง สุดยอดจริงๆ เลยเพื่อนแบบฉัน พวกเธอยังอยากคบฉันอยู่ไหมนี่

             

Read Full Post »

 
          บ่ายวันนี้ที่คณะเกษตร ศ.เฉลิมพล และอาจารย์ ดร.นิรันดร อดีตคณาจารย์ของคณะ
          ท่านมาบรรยายให้พวกเราชาวเกษตรฟังเกี่ยวกับเรื่องการปั่นจักรยาน เพราะอาจารย์ทั้งสองท่าน
          เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการตั้งชมรมจักรยานวันอาทิตย์ และปั่นจักรยานมาแล้วทั่วสารทิศ

          โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศ.เฉลิมพล ท่านปั่นอยู่ในจีนเกือบ 700 กิโล ปั่นที่เกาะใต้ นิวซีแลนด์ด้วย
          ปั่นที่เวียนนา อย่างฝันเลยฉัน อยากไปปั่นแบบนั้นบ้างจัง แต่ท่านอายุ 60 แล้ว (แต่ยังดูไม่แก่)
          ถ้าฉันอายุ 60 คงไม่ไปไหนแล้วละมั้งนี่ เลี้ยงหลานอยู่กับบ้านดีกว่า เหมือนกับสามีก็เคยบอกนะ

          ว่าขอเกษียณตัวเองตอนอายุ 40 เพราะจะได้มีแรงปั่นจักรยานบ้าง ให้ฉันดูแลส่งเสียลูกไป
          ทุกวันนี้แรงดีแต่ไม่ค่อยมีเงินใช้ เลยต้องก้มหน้าก้มตาทำงานไปก่อน แถมภรรยาก็แสนหวังดี
          ทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มให้ด้วย เรียกว่าสนับสนุนกันเต็มที่ โดยเฉพาะตอนระบุผู้รับผลประโยชน์

          ขอย้อนกลับไปเล่าเกี่ยวกับโครงการปั่นจักรยานของคณะอีกที คณะนี้วิสัยทัศน์กว้างไกล
          ส่งเสริมให้บุคลากรปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ ส่วนว่าจะลดภาวะโลกร้อนได้หรือไม่นั้น 
          ต้องดูกันต่อไป แต่ขอเป็นส่วนหนึ่งก็ยังดี จะได้อยู่ในกระแส GW กับชาวโลกเค้าอย่างภาคภูมิได้

          ที่คณะช่วยออกเงินให้ไปซื้อจักรยานก่อนด้วยนะ แล้วหักเงินเดือนหรือผ่อนกับคณะ 10 เดือน
          ทำให้บุคลากรแต่ละท่านที่ซื้อจักรยานมา ไม่มีใครไม่ได้อย่างหรูเลย แบบว่าข่มกันเห็นๆ 
          เราเคยขอกู้มาซื้อโช๊คแล้ว แต่เค้าไม่อนุมัติ เพราะว่าไม่อยู่ในหลักการ ให้ซื้อเป็นคันดีกว่า

          สำหรับคนที่มีรถและมีเรี่ยวแรงสะสมไว้บ้างอย่างเรา เลยขอไปปั่นกับเค้าบ้าง 
          จะว่าไปก็ติดใจเหมือนกัน แถมเส้นทางยังเป็นที่ที่ไม่ค่อยได้ปั่นอีกด้วย เพราะทุกทีปั่นกลับ
          จะเป็นเส้นวงแหวนรอบนอกสุด แต่วันนี้ลัดเลาะตั้งแต่ทางเข้าวัดอุโมงค์ไปโผล่วงเวียนช้าง

          ที่พืชสวนโลกเลย ยังพูดกับอาจารย์ที่ไปด้วยกันว่า หนูตื่นตาตื่นใจมากนะคะ ไม่เคยมาเลย
          อาจารย์คงขำ ว่ายัยนี้ไม่เคยมาพืชสวนโลกหรือไง แต่ที่น่าตื่นเต้นคือ เส้นทางที่ลัดเลาะไป
          ผ่านบ้านคน ผ่านวัด ผ่านโรงเรียน ผ่านคอนโดที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด และป้ายประท้วงใกล้ๆ คอนโด

          บอกว่าไม่เอาตึกสูงเต็มไปหมด แต่ก็มีตึกสูงขึ้นเต็มเลย บรรยากาศไม่ร้อนมาก ลมเย็นๆ
          มีรถ service ของคณะตามไปให้บริการด้วย ที่สำคัญมีสาวสวยตามถ่ายรูปเป็นระยะๆ 
          คราวหน้าถ้าจัดจะขอไปด้วยอีกหน เพราะทนปั่นเดียวดายมาแสนนาน ต่อไปขอปั่นแบบหมู่คณะบ้าง

         

            

Read Full Post »

ทรงผมน้องโฟกัส

 
          มีความรู้สึกว่าตัวเองต้องไปตัดผมไม่ช้าก็เร็ว เพราะดันไปสยายผมกันในห้องสัมมนากับเจ๊บุ๋ม
          เมื่อสองวันก่อน ทำเอาหญิงป้าแถวนั้นถึงกับค้อนใส่เลยทีเดียว หลังจากที่มัดบ้างไม่มัดบ้าง
          ให้ขัดใจหญิงป้าอย่างแรง ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปหาช่างประจำตัวให้ตัดผมใหม่อีกครั้ง 

          ตอนนั่งทำงานก็วานให้น้องชายหาทรงผมให้หน่อย เห็นแว้บๆ ในโฆษณาหนังวัยรุ่น
          นึกได้ว่าเป็นน้องโฟกัส น้องชายเลยส่งรูปนี้มาให้ ฉันเลยพริ้นไปให้พี่ที่ร้านประจำดู
          จริงๆ พี่ที่ทำงานบอกว่าให้ไปตัดทรงป้านิโคล แต่ฉันว่ามันเริ่มเอาท์ๆ แล้วนะ

          ทีตัวเองยังทำทรงผมน้องจีจ้ามาเลย แถมทำก่อนหน้านั้นอีกด้วย เพราะเปิดแมกกาซีนเกาหลีมา
          หน้าไม่ให้แต่ใจรักจริงๆ เลย พวกเราเนี่ย พี่ที่ร้านทักทายถามว่าจะตัดแบบเดิมไหม
          เลยต้องงัดรูปที่พริ้นไปให้พี่ดู ว่าเอาทรงประมาณน้องโฟกัสค่ะ หน้าตาไม่ให้ไม่เป็นไร อิอิ

          พี่คนตัดเลยร้องอ๋อ บอกว่าทุกทีน้องก็ตัดทรงนี้แหละ เพียงแต่ตอนนี้มันยาวแล้วเท่านั้น
          ไม่รู้มาก่อนเลยนะนี่ ว่าฉันทำผมทรงเดียวกับน้องเค้าอะนะ เพราะหน้าตามันห่างกันสุดโลก
          เลยดูไม่ออกเลยจริงๆ แต่พี่เค้าแนะนำว่าไม่ลองทำผมทรงไม่เท่ากันแบบจำเลยรักหละ

          ทำไปวันเดียวก็ได้นะ พรุ่งนี้พี่จะตัดให้เท่ากันแบบฟรีๆ เลย กะให้เราเอาไปเทสกระแสว่างั้น
          แต่ก็ใจไม่กล้าพอหรอก กลัวลูกและสามีจะจำไม่ได้ สรุปแล้วก็ได้ทรงผมน้องโฟกัสมาจริงๆ
          พอมาถึงที่ลานจอดรถ เพื่อกลับบ้านพร้อมน้องชาย เจอแก๊งค์หนุ่มสาวกิจการนักศึกษา

          ที่ช่วยกันหารูปน้องโฟกัสมาให้จากในเว็บก่อนหน้านี้ เลยต้องอวดทรงผมกันซะหน่อย
          และบอกว่าพี่คนตัดเค้าทำให้ได้แค่นี้แหละ เพราะว่าถ้าจะให้เหมือนน้องเค้าเลยต้องไปเกิดใหม่
          น้องชายเราบอกว่า ก็มันคนละสปีย์ชี่อยู่แล้ว จะให้เหมือนได้ยังไงนี่ (จริงของเค้าเน๊อะ)

                
          ปล. อยากตัดทรงแบบหมวยเล็กเพื่อนเราตัด แต่ไม่กล้าซักที ขออภัยจริงๆ เพื่อน อิอิ

Read Full Post »

มันก็จริงของเขา

 
        โปรถ่ายภาพ                                                 โปรกล้อง                
        – ได้รายได้จากการถ่ายภาพ                              – เสียรายได้ไปกับอุปกรณ์ถ่ายภาพ
        – เปลี่ยนกล้องเมื่อตอบสนองต่อการใช้งานไม่ได้    – เปลี่ยนกล้องเมื่อเทคโนโลยีสู้คนอื่นไม่ได้
        – เลือกเลนส์ที่การใช้งานเป็นหลัก                       – เลือกเลนส์ที่สเปคเป็นหลัก
        – อาจมีอุปกรณ์ไม่กี่อย่าง แต่ผลงานมากมาย         – อาจมีผลงานไม่กี่งาน แต่อุปกรณ์มากมาย
        – มีความสุขเมื่อคนชมว่าผลงานสวยจัง                 – มีความสุขเมื่อคนชมว่าโปรจัง
        – พึงพอใจที่ภาพคมชัดสวยงามตรงโจทย์เมื่ออัดมา – พึงพอใจที่ภาพคมชัดกว่าคนอื่น
        – แนะนำเทคนิคและแนวคิดในการถ่ายภาพได้         เมื่อขยาย 100% ในคอม
        – อาจจะมีเลนส์ไม่กี่ตัว แต่เพียงพอต่อการใช้งาน    – แนะนำการเลือกซื้อกล้องและอุปกรณ์ได้
        – ถามถึงเลนส์ที่ไม่มีใช้ อาจตอบไม่ได้ ไม่รู้           – อาจมีเลนส์หลายตัว 
        – ซื้ออุปกรณ์ทีเดียวใช้ไปนาน                               แต่ก็ยังตอบสนองการใช้งานได้ไม่ครบ
        – เมื่อถูกจำกัดด้วยอุปกรณ์ก็ไม่เป็นไรมากนัก         – ถามถึงเลนส์ตัวไหนๆ ก็ตอบได้ 
        – เมื่อเห็นภาพสวยงามจะส่งสัยว่ามีเทคนิคยังไง       – ซื้ออุปกรณ์แล้วก็ขายต่อ
                                                                           – เมื่อถูกจำกัดด้วยอุปกรณ์ 
                                                                             ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่มากนะ
                                                                           – เมื่อเห็นภาพสวยงาม 
                                                                             จะสงสัยว่าใช้กล้องกับเลนส์ชุดไหน  

          
        ขออภัยที่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของเนื้อหาข้างบน 
        เพราะสามีส่งมาให้เป็นไฟล์คงมาจากเว็บกล้องทั้งหลาย
        วันหลังจะเขียนเรื่องพวก "เกรียนรวย" ในเว็บจักรยานบ้างดีกว่า 
        ประมาณนี้เลย full options แต่ไม่มีแรงน่องปั่นให้ทันชาวบ้านเค้า หุหุ 
        ปล. รูปนี้ เป็นการแอบถ่ายของพวกโปรกล้องด้วยกันเอง อิอิ

Read Full Post »


          ขณะที่กำลังดูข่าวตอนเย็นๆ มีข่าวพยากรณ์อากาศของต่างประเทศ ทาง earth TV
          มีหิมะตกในหลายๆ ประเทศ ย่าชี้ชวนให้แชทดู บอกว่า นั่นไงๆ แชท หิมะกำลังตก
          แชทเบื่อกับมุขแบบนี้แล้วหละ เพราะแม่ก็พูดทุกครั้งเหมือนกันเวลาเห็นหิมะในทีวี
          หรือเห็นในการ์ตูนหมีพูห์ เรียกว่าไม่อยากดู ไม่อยากเห็นมันตกอยู่ในทีวีอีกแล้ว
          แชทบอกกับย่าว่า "แชทอยากเห็นหิมะด้วยตาตัวเองนะย่า" ไม่ใช่เห็นจากในทีวี

          

           ปล. รูปนี้ไม่ใช่รูปแชท แต่เป็นรูปลูกคนอื่นในเว็บจักรยาน กะว่าเอาไว้อวดแชท
         กดดันลูกเล่นๆ เพราะแชทยังไม่ได้มีโอกาสเห็นหิมะด้วยตาเองเลย อิอิ
         (โทษพ่อกับแม่ที่ไม่รวยละกันเน๊อะ)

          

Read Full Post »

Older Posts »